ผู้ว่ากฟผ.อัดงบ2.2หมื่นล.พัฒนาโรงไฟฟ้า

นายนรินทร์ เผ่าวณิช ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงทิศทางและนโยบายการทำงานภายหลังเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ กฟผ. คนที่ 17 ว่า กฟผ. ได้วางงบลงทุนปี 2569 ประมาณ 22,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการก่อสร้างโรงไฟฟ้า 183 ล้านบาท การก่อสร้างและปรับปรุงระบบสายส่งไฟฟ้า 13,000 ล้านบาท และแผนระยะยาว เช่น การปรับปรุงรักษาเสถียรภาพโรงไฟฟ้า ปรับปรุงระบบสายไฟฟ้าแรงสูงพื้นที่ภาคใต้ประมาณ 9,200 ล้านบาท
นอกจากนี้ ได้เดินหน้านโยบาย Quick Big Win ของกระทรวงพลังงานในการเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ (Floating Solar) ทั้ง 3 เขื่อนของ กฟผ. ได้แก่ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี กำลังผลิตรวม 1,638 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2570
พร้อมเร่งพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าให้มีความทันสมัย (Grid Modernization) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นระบบไฟฟ้า รับการขยายตัวของอุตสาหกรรมดิจิทัล หีือ ดาต้า เซ็นเตอร์ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
สำหรับดูแลค่าไฟของประชาชนนั้น ปัจจุบันกฟผ. ดำเนินการหลัก คือการบริหารเรื่องเชื้อเพลิงที่พยายามจะหาแหล่งต้นทุนที่ต่ำที่สุด ขณะที่ภาระต้นทุนคงค้างที่ กฟผ. ที่แบกรับไว้ปัจจุบันอยู่ที่ 40,000 กว่าล้านบาท จากเดิมที่เคยรับภาระกว่าแสนล้านบาท
ต้องยอมรับว่ามีดอกเบี้ยที่สูง แต่ กฟผ. ก็ต้องดูแลค่าไฟให้กับประชาชนให้ถูกที่สุด ซึ่งต้องจัดการให้เกิดความสมดุลกันระหว่างสองทาง
ซึ่งคาดว่าจากสถานการณ์ปัจจุบันจะได้รับเงินที่ค้างอยู่ภายในปี 2570 แต่ก็ต้องติดตามความตรึงเครียดด้านปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างต่อเนื่อง หากแนวโน้มลดลงก็จะส่งผลให้ราคา LNG ลดลงได้ ซึ่งคาดว่าช่วงปีหน้าราคาจะอยู่ที่ระดับ 10-12 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู
ส่วนเรื่องน้ำท่วมภาคใต้ นั้น จากการตรวจสอบพบความเสียหายในโรงไฟฟ้าขนาดย่อยที่ อำเภอจะนะบางส่วน ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 เดือนจะสามารถฟื้นฟูให้กลับมาจ่ายไฟฟ้าดังเดิมได้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
