รีเซต

คอลัมน์ People In Focus: ซูซาน ไรซ์  ตัวเต็งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐคนใหม่

คอลัมน์ People In Focus: ซูซาน ไรซ์  ตัวเต็งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐคนใหม่
มติชน
13 พฤศจิกายน 2563 ( 07:41 )
88
คอลัมน์ People In Focus: ซูซาน ไรซ์  ตัวเต็งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐคนใหม่

ว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่เพิ่งโค่นโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้รับการคาดหมายว่าจะแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี และทีมที่ปรึกษาที่มีความหลากหลายอย่างยิ่ง


ซูซาน ไรซ์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ในยุคประธานาธิบดีบารัค โอบามา เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่ได้รับการคาดหมายว่าจะได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ภายใต้ประธานาธิบดีไบเดน ในอนาคต

 

นักการทูตอเมริกันวัน 55 ปี ผู้ที่เคยทำงานใกล้ชิดกับโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดี ในยุคประธานาธิบดี โอบามา เคยได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นหนึ่งในผู้ที่ไบเดน จะเลือกเป็นรองประธานาธิบดีร่วมชิงตำแหน่งในการเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่กลับเป็น คามาลา แฮร์ริส ที่ได้รับเลือกไปแทน

 

ไรซ์ เกิดในกรุงวอชิงตันดีซี ลูกสาวของนักวิชาการด้านนโยบายการศึกษาชื่อดัง โลอิส ไรซ์ และ อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยคอร์แนล เอ็มเม็ตต์ เจ.ไรซ์ ผู้สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐผิวสีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์

 

ไรซ์ จบการศึกษาศิลปศาสตร์บัณฑิตด้านประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในปี 1986 ก่อนจบปริญญาโทและปริญญาเอกด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ในปี 1990

 

ไรซ์เริ่มต้นทำงานในยุคปประธานาธิบดีบิล คลินตัน ในสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสซี) ระหว่างปี 1993-1997 ก่อนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศด้านกิจการแอฟริกา ในปี 1997-2000 และได้ดำรงตำแหน่งเป็น

 

เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำองค์การสหประชาชาติ ในยุคประธานาธิบดีบารัค โอบามา ระหว่างปี 2009-2013 ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ จนถึงปี 2017

 

หลังสิ้นสุดยุคประธานาธิบดีโอบามา ไรซ์ไปนั่งเป็นคณะกรรมการบริหาร “เน็ตฟลิกซ์” บริษัทให้บริการสตรีมชื่อดัง ก่อนที่จะมีข่าวว่า ไรซ์ ได้ถอนตัวออกจากการเป็นบอร์ดบริหาร โดยมีรายงานว่าได้ขายหุ้นออกไปมูลค่า 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่มีข่าวว่า ไรซ์ มีโอกาสได้รับเลือกให้ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐ

 

ไรซ์ ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนสิงหาคมระบุว่า ตนมีคุณสมบัติพร้อมที่จะนั่งอยู่ในคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเธอ

“มันขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนต่อไปและวุฒิสภาในกรณีที่ตำแหน่งนั้นจะต้องได้รับการผ่านมติ” ไรซ์ ระบุ

 

การแต่งตั้งไรซ์ อาจได้รับการต่อต้านจากวุฒิสภาซึ่งพรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากอยู่ในเวลานี้ โดยเฉพาะ จากกรณีที่ไรซ์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุโจมตีสถานกงสุลสหรัฐในนครเบงกาซี ประเทศลิเบีย เมื่อปี 2012 ในขณะนั่งเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็น

 

รวมไปถึงกรณีในปี 2016 ที่ไรซ์ นั่งเป็นปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีโอบามา ซึ่งกำลังจะพ้นจากตำแหน่ง หลังทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง เปิดเผยชื่อไมเคิล ฟลินน์ ว่าที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทรัมป์ ในเอกสารข่าวกรองที่ชี้ว่า ฟลินน์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่พบปะกับ มกุฎราชกุมารแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ทรัมป์ทาวเวอร์ ในเดือนธันวาคม 2016 โดยที่รัฐบาลโอบามาในเวลานั้นไม่รู้เรื่องมาก่อน

 

อย่างไรก็ตามทั้ง 2 กรณีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้มีการสอบสวนกรณีดังกล่าวแล้วไม่พบการกระทำผิดของไรซ์แต่อย่างใด

ทั้งนี้นอกจากไรซ์ จะได้รับการคาดหมายว่าเป็นตัวเต็งในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐคนใหม่แล้ว ยังได้รับการคาดหมายว่าอาจเป็นตัวเต็งในตำแหน่งรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ รวมถึงรัฐมนตรีกลาโหมด้วย

 

รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง