รีเซต

เครือซีพี เดินหน้าขับเคลื่อนแนวทางบรรษัทภิบาลด้าน Diversity&Inclusion

เครือซีพี เดินหน้าขับเคลื่อนแนวทางบรรษัทภิบาลด้าน Diversity&Inclusion
TNN ช่อง16
5 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:33 )
75

5 กุมภาพันธ์ 2564 นายนพปฎลเดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์จำกัด กล่าวว่า ภายใต้นโยบายบรรษัทภิบาลหรือ การกำกับดูแลกิจการที่ดีของเครือเจริญโภคภัณฑ์นั้น ได้ให้ความสำคัญกับแนวทางการดำเนินงานด้านDiversityand Inclusion หรือความหลากหลายและการอยู่ร่วมกันทั้งนี้เนื่องจากเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นองค์กรธุรกิจที่มีการค้าการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมและมีพนักงานมากกว่า3.5แสนคนใน22ประเทศทั่วโลกจึงมีพนักงานที่มีความหลากหลายในมิติต่างๆ ทั้งด้านอายุ เพศสภาพเชื้อชาติ ศาสนาและอื่น ๆและพนักงานที่มีความหลากหลายและแตกต่างกันเช่นนี้คือพลังสำคัญที่จะสร้างคุณค่าให้กับองค์กรโดยเฉพาะการสร้างสรรค์นวัตกรรมและโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจตลอดจนเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงและองค์กรที่แข็งแกร่งพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

22ประเทศที่เครือซีพีเข้าไปทำธุรกิจมีบุคลากรสัญชาติต่าง ๆจากทั่วโลกประมาณ 50- 60 ประเทศเราพยายามปรับกระบวนการทำงานให้บุคลากรเหล่านี้สามารถทำงานร่วมกันได้เพื่อดึงเอาไอเดียจากความหลากหลายแตกต่างนี้มาผนึกกำลังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับเครือฯเราจึงเชื่อว่า Diversityand Inclusion มีส่วนช่วยให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆอยู่เสมอ” ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าว

นายนพปฎลกล่าวต่อไปด้วยว่า คนถือเป็นทรัพยากรที่เครือซีพีให้ความสำคัญเป็นอย่างมากนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาอาจไม่ค่อยพูดถึงเรื่องเพศสภาพแต่ด้วยวันนี้สภาพสังคมและเทคโนโลยีเปลี่ยนไปและคนมีการแสดงออกอย่างชัดเจนมากขึ้นเครือฯ จึงคิดว่าทำไมไม่ใช้ความแตกต่างนี้ให้เกิดคุณค่าเครือฯ จึงเริ่มจากการจัดโฟกัสกรุ๊ปกับทุกกลุ่มนำผลที่ได้ (Feedback)มากำหนดนโยบายของเครือซีพีที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการงานบุคคลให้มีความเหมาะสมตั้งแต่การเริ่มต้นสรรหาการดูแลระหว่างการเป็นพนักงานจนกระทั่งพนักงานลาออกจากงานโดยปัจจุบันเครือซีพีให้ความสำคัญจนพัฒนาไปถึงการกำหนดนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารบุคคลรวมถึงแนวปฏิบัติที่ดีด้านความหลากหลายและการอยู่ร่วมกันของเครือซีพี

การออกนโยบายที่เกี่ยวข้องกับพนักงานนั้นจะต้องให้ความสำคัญกับการปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียมกันต้องปฏิบัติต่อทุกคนตามสิทธิตามคุณค่าและความสามารถที่เขาให้กับส่วนรวมทั้งการปฏิบัติงานและความรับผิดชอบไม่ว่าเขาจะอยู่ในเพศสภาพใดอย่างไรก็ตาม”นายนพปฎล กล่าว

ทั้งนี้การดำเนินการให้ Diversityand Inclusion หรือความหลากหลายและการอยู่ร่วมกันเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมจะต้องทำสองอย่าง คือ “PushและPull”เมื่อออกนโยบายแล้วต้องมีการติดตามดูแล หากไม่ทำตามก็ต้องลงโทษ เมื่อมีการปฏิบัติตามควรให้กำลังใจ พร้อมอธิบายเหตุผลวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันทุกอย่างเริ่มต้นจากตัวเราเองจะเห็นว่าความแตกต่างหรือความหลากหลายสามารถนำไปสู่การพัฒนาสร้างคุณค่าให้กับทั้งองค์กรและพนักงานสิ่งที่ต้องปลดล็อคคือต้องยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์และเปิดใจรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทุกวัน

นอกจากนี้ยังมุ่งสร้างความตระหนักรู้และแบ่งปันแนวทางการดำเนินงานของเครือฯรวมทั้งรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของเครือฯซึ่งมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความเสมอภาคและขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศในการประกอบกิจการของบริษัทรวมทั้งในห่วงโซ่อุปทานตลอดจนสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความหลากหลายและการป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินงานผ่านการพัฒนาระบบการพัฒนาและฝึกอบรมผ่านe-learningเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวนโยบายดังกล่าวโดยมีหัวข้อเกี่ยวกับการยอมรับความหลากหลายการไม่เลือกปฏิบัติบนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลรวมถึงความแตกต่างทางเพศและการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง