เตือน ! “ฆ่าเชื้อโรค” ผิดวิธี เสี่ยงมือถือพัง พร้อมแนะนำวิธีทำความสะอาดง่าย ๆ ทำได้ที่บ้าน

เคยคิดไหมว่าโทรศัพท์มือถือที่เราสัมผัสอยู่ตลอดเวลานั้นสกปรกแค่ไหน ? ผลการวิจัยที่ถูกเผยแพร่บนวารสารวิทยาศาสตร์ The Conversation พบว่ามักจะพบจุลินทรีย์หลายร้อยชนิดจากการเก็บตัวอย่างจากโทรศัพท์มือถือจากกลุ่มตัวอย่าง แม้ว่าบางส่วนจะไม่เป็นอันตราย แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อได้ ยิ่งไปกว่านั้น โทรศัพท์ไม่เหมือนมือที่เราสามารถล้างทำความสะอาดได้บ่อยครั้ง ทำให้เชื้อโรคสะสมได้ง่าย
อันตรายจากการทำความสะอาดที่ไม่ถูกต้อง
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าการใช้สเปรย์ทำความสะอาดในครัวเรือน หรือเจลล้างมือจะช่วยให้โทรศัพท์สะอาดขึ้น แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจทำลายสารเคลือบป้องกันบนหน้าจอ ทำลายซีลกันน้ำ หรือแม้กระทั่งทำให้หน้าจอสัมผัสเสื่อมสภาพได้
ที่มาของภาพ
Samsung
ผู้ผลิตโทรศัพท์ยักษ์ใหญ่ทั้ง แอปเปิล (Apple) และ ซัมซุง (Samsung) ได้ออกมาเตือนว่า ห้าม ใช้สารเคมีที่รุนแรง เช่น สารฟอกขาว ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ น้ำส้มสายชู น้ำยาเช็ดกระจก หรือแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นสูงเกิน 70% กับการทำความสะอาดบนโทรศัพท์มือถือโดยตรง เพราะสารเหล่านี้สามารถทำลายสารเคลือบกันรอยนิ้วมือ (Oleophobic Layer) บนหน้าจอ ทำให้เกิดรอยเปื้อนได้ง่าย และลดการตอบสนองของหน้าจอ นอกจากนี้ น้ำส้มสายชูยังสามารถกัดกร่อนขอบโลหะหรือพลาสติกได้อีกด้วย
วิธีทำความสะอาดโทรศัพท์อย่างถูกวิธี
ที่มาของภาพ
Samsung
แล้วการทำความความสะอาดมือถืออย่าถูกวิธีทำอย่างไร ? การทำความสะอาดโทรศัพท์อย่างปลอดภัยนั้นง่ายและประหยัด เพียงแค่ทำตามคำแนะนำจากผู้ผลิตดังนี้:
ถอดปลั๊กและอุปกรณ์เสริมทั้งหมด ก่อนทำความสะอาด ควรปิดเครื่องและถอดเคสหรือสายชาร์จออก
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ตามคำแนะนำของบริษัท แอปเปิล (Apple) แนะนำให้ใช้ แผ่นเช็ดแอลกอฮอล์ 70% หรือที่รู้จักกันในชื่อแอลกอฮอล์เช็ดแผล (Isopropyl) หรือตามคำแนะนำของบริษัท ซัมซุง (Samsung) แนะนำให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์นุ่ม ๆ ที่ชุบด้วยสารละลายแอลกอฮอล์ 70% โดยห้ามฉีดพ่นของเหลวลงบนโทรศัพท์โดยตรง เพราะความชื้นอาจซึมเข้าไปในพอร์ตและทำให้เกิดความเสียหายได้
ใช้แปรงขนนุ่มสำหรับทำความสะอาดบริเวณที่บอบบาง เช่น ลำโพงหรือพอร์ตชาร์จ ควรใช้แปรงขนอ่อนนุ่มที่ทำจากไนลอนหรือขนม้า
หลีกเลี่ยงวัสดุหยาบ เช่น กระดาษเช็ดมือ, กระดาษทิชชู หรือผ้าหยาบ เพราะอาจทำให้หน้าจอเกิดรอยขีดข่วนได้
ที่มาของภาพ
Apple Support
เทคโนโลยีทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ
อีกทั้งยังมีอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นั่นคือ เครื่องฆ่าเชื้อโทรศัพท์ด้วยแสงยูวี (UV Phone Sanitizer) ซึ่งถูกพัฒนาเพื่อตอบโจทย์การทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะ โดยทำงานผ่านแสง UV-C ที่มีความยาวคลื่นสั้น สามารถทำลายเชื้อโรคและไวรัสบนพื้นผิวโทรศัพท์ได้ในระดับเซลล์ จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้คือ ไม่ต้องพึ่งพาสารเคมี ไม่ทิ้งคราบหรือความชื้น และไม่เสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายต่อระบบภายในของโทรศัพท์
ที่มาของภาพ
Lexuma
เครื่องฆ่าเชื้อ UV นี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ แบบกล่อง (Box) และ แบบแท่ง (Wand) ซึ่งแบบกล่องถือว่ามีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงกว่า เพราะเมื่อปิดฝา เครื่องจะปล่อยแสงยูวีภายในกล่องเป็นเวลา 3-10 นาที หรือในบางรุ่นสามารถตั้งค่าเพิ่มรอบการทำงานให้ยาวถึง 20 นาที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อ ขณะที่แบบแท่งแม้จะพกพาสะดวก แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนถึงความเสี่ยงจากการสัมผัสแสงยูวีโดยตรง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อดวงตาและผิวหนังหากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง
ที่มาของภาพ
Shenzhen Lanqiaoying Technology Co., Ltd
ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยไฮฟาแนะนำว่า หากต้องการให้การฆ่าเชื้อมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรทำความสะอาดฝุ่น คราบมัน หรือรอยนิ้วมือบนพื้นผิวโทรศัพท์ก่อน เพราะแสงยูวีทำงานได้ดีที่สุดบนพื้นผิวที่โล่งและไม่มีสิ่งกีดขวาง ทั้งนี้ แม้จะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนถึงประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อไวรัส รวมถึงเชื้อโคโรนาไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 แต่ผู้ใช้งานก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบจากห้องปฏิบัติการ และตรวจสอบรายละเอียดความยาวคลื่นที่เครื่องปล่อยออกมาให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม ประมาณ 254–285 นาโนเมตร
ควรทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน?
ไม่มีกฎตายตัวว่าต้องทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน แต่การเช็ดอย่างเหมาะสมอย่างน้อย สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล หากคุณใช้โทรศัพท์ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ในโรงพยาบาล, รถขนส่งสาธารณะ หรือในห้องน้ำ ควรทำความสะอาดให้บ่อยขึ้น
การดูแลรักษาโทรศัพท์อย่างถูกวิธีไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องสุขอนามัยเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาสภาพและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ที่คุณรักอีกด้วย เพราะการทำความสะอาดอย่างผิดวิธีอาจสร้างความเสียหายสะสมในระยะยาวได้ การทำความสะอาดโทรศัพท์อย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งที่เราสามารถทำตามขั้นตอนได้อย่างง่าย ราคาไม่แพง และควรทำเป็นประจำ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
