SCGP ปิดดีลเข้าถือหุ้น 'Deltalab' สเปน โบรกอัพกำไร-เป้าหมาย
ทันหุ้น - SCGP ขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ในระดับโลกอย่างเต็มตัว รองรับกลยุทธ์ขยายการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างครบวงจร ปิดดีลใหญ่เข้าถือหุ้นร้อยละ 85 ใน Deltalab, S.L ประเทศสเปน ที่ครอบคลุมตลาดส่งออก 125 ประเทศทั่วโลก โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้
นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า SCGP วางกลยุทธ์มุ่งขยายการให้บริการโซลูชันบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยการขยายธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการแพทย์ที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีจากเทรนด์การดูแลรักษาสุขภาพและการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในหลายประเทศ โดยภาพรวมตลาดวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ในยุโรปปี 2562 มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 26,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8.1 แสนล้านบาท) และในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 48,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท) โดยคาดว่าจะมีอัตราเติบโตร้อยละ 7-9 ต่อปี (ข้อมูลจาก LEK Consulting ปี 2562 - 2567)
ล่าสุด SCGP บรรลุผลสำเร็จเข้าถือหุ้นร้อยละ 85 ใน Deltalab, S.L (Deltalab) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศสเปน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Supplies and Labware) โดยเข้าลงทุนผ่านบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล เฮลธ์แคร์ แพคเกจจิ้ง จำกัด ที่ SCGP ถือหุ้นทั้งหมด ใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 84.9 ล้านยูโร (3,270 ล้านบาท) จะเริ่มรับรู้รายได้ในงบการเงินรวมของบริษัทตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
Deltalab มีผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้นกว่า 15,000 หน่วยสินค้า มีกำลังการผลิตรวม 250 ล้านชิ้นต่อปี และส่งออกสินค้าครอบคลุมตลาดส่งออก 125 ประเทศทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น อาทิ ถ้วยเก็บตัวอย่างของเหลวจากร่างกาย, หลอดสุญญากาศสำหรับถ่ายเทตัวอย่าง (Liquid containers and tubes for vacuum system), หลอดเก็บตัวอย่างเลือด (Traceable blood collection tube set for haematology), หลอดขนาดเล็กสำหรับงานวิเคราะห์พันธุกรรม (Microtubes and flexible plates for real time PCR), หลอดปิเปตต์ขนาดต่าง ๆ สำหรับถ่ายเท ตวง ของเหลว (Various types of pipettes for liquid handling), ชุดตรวจสวอบ (Swab test set)
ทั้งนี้ นับจากวันที่ 1 ตุลาคม 2563 - 30 กันยายน 2564 Deltalab มีรายได้รวม 84.3 ล้านยูโร (ประมาณ 3,245 ล้านบาท) มีกำไรสุทธิหลังหักภาษีประมาณ 19.3 ล้านยูโร (ประมาณ 740 ล้านบาท) และมีสินทรัพย์อยู่ที่ 44.7 ล้านยูโร (ประมาณ 1,720 ล้านบาท)
“การลงทุนใน Deltalab ครั้งนี้ จะช่วยยกระดับการขยายฐานลูกค้าในแถบยุโรป ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และภูมิภาคอื่น ๆ ขยายพอร์ตสินค้าของ SCGP ให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น โดยต่อยอดจากความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและนำเสนอบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร เพิ่มขีดความสามารถการให้บริการสู่ระดับโลก รวมถึงผนึกความสามารถทางธุรกิจโดยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อร่วมมือกันพัฒนาโซลูชันและขยายตลาดใหม่ ๆ ” นายวิชาญ กล่าว
ในปี 2564 SCGP ได้ดำเนินนโยบายการขยายธุรกิจด้านโซลูชันบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ตามแผนขยายธุรกิจแบบ Organic Growth และการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Merger and Partnership) โดยสามารถปิดดีลขยายธุรกิจ 4 ดีล ใช้งบลงทุนรวมประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมกว่า 16,000 ล้านบาท (ตามข้อมูล ณ วันที่ปิดดีล) ได้แก่ Go-Pak Group ผู้นำการให้บริการโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์อาหารในสหราชอาณาจักร ยุโรป และอเมริกาเหนือ Duy Tan Group ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบคงรูปรายใหญ่ในประเทศเวียดนาม Intan Group บรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูกในประเทศอินโดนีเซีย และล่าสุด Deltalab Group ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญของ SCGP เพื่อรองรับเมกะเทรนด์ของโลกด้านสุขอนามัยและการดูแลสุขภาพ
**โบรกฯ อัพกำไร-เป้าหมายปี 65
บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด มอง SCGP ได้เข้าซื้อหุ้น (merger and partnership: M&P) สัดส่วน 85% ใน Deltalab ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ในประเทศสเปน รวมเป็นเงิน ~3.27 พันลบ. เสร็จเรียบร้อยแล้ว การลงทุนในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้ SCGP ขยายธุรกิจสู่ตลาดบรรจุภัณฑ์กลุ่มใหม่ที่เติบโตสูงในกลุ่มวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ สร้างประโยชน์จากการผนึกกำลังในธุรกิจ PPP และเป็นรากฐานสำหรับการขยายธุรกิจในตลาดเอเชียแปซิฟิกที่เติบโตสูงในอนาคต ปรับประมาณการกำไรปี 2565 ของ SCGP เพิ่มขึ้น 3% เพื่อรวมดีลนี้เข้ามา ยังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ SCGP ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 อ้างอิงวิธี DCF ที่ปรับใหม่เป็น 72 บาท (จาก 70 บาท)