จับแล้ว! ตร.เชียงใหม่ จับ 2 ผัวเมียโชว์เสียวใต้ต้นยางแล้ว เจอ 3 ข้อหา สารภาพหารายได้เลี้ยงชีพ

“ปิยะ” ผบช.ภ. 5 แถลงข่าวจับ 2 ผัวเมียโชว์เสียวใต้ต้นยางสารภี พร้อม หลักฐาน 70 คลิป เจอ 3 ข้อหา “ผิดอาญา-นำเข้าคอมพิวเตอร์-ขายหน้าธารกำนัล” ผู้ต้องหายอมรับสารภาพ อ้างหารายได้เลี้ยงชีพ แนะอย่าโพสต์-แชร์ต่อ อาจเข้าข่ายสนับสนุนทำผิดกฎหมาย

วันที่ 5 ตุลาคม 2564 ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้แถลงข่าวจับกุมนายเอ (นามสมมุติ) และ น.ส.บี (นามสมมุติ) 2 ผู้ต้องหาคดีหนุ่มสาวร่วม

เพศใต้ต้นยางนา หน้าแขวงการทาง ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี ก่อนเผยแพร่ทางโซเซียลมีเดีย กว่า 70 คลิป ซึ่งเข้าข่ายผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.287 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คอมพิวเตอร์ม.14 (4) นำเข้าสู่ระบบ

คอมพิวเตอร์ ที่มีลักษณะอันลามก และ ม. 388 ฐานกระทำการอันควรขายหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือการลามกอย่างอื่นต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท รวม 3 ข้อหานั้น

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีนโยบายปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือโซเซียลมีเดีย ซึ่งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5) ได้รับเรื่องร้องเรียนให้ทำการตรวจสอบข่าว ที่มีประชาชนให้ความสนใจกับเฟซบุ๊ก ที่เผยแพร่การร่วมเพศ ก่อนเผยแพร่ในโซเซียลมีเดียและมีการแชร์ในวงกว้าง จึงมอบหมาย ศปอส.ภ.5 สืบสวนติดตามผู้เกี่ยวข้อง และรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่าบุคคลในคลิปวิดีโอ คือ นาย เอ นางสาว บี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีข้อหาดังกล่าว

“ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพ โดยนายเอ ยอมรับว่าตนเองมีความ เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ และเป็นสามีของ นางสาว บี และเป็นชายไทยในคลิปวิดีโอลามก อนาจารจริง ส่วนนางสาว บี เป็นหญิงไทยในคลิปวิดีโอที่มีเพศสัมพันธ์ตามที่มีการเผยแพร่ตามโซเซียลมีเดีย ซึ่งตนและแฟนสาวได้มีเพศสัมพันธ์นอกสถานที่ เพื่อทำคลิปลามกอนาจารดังกล่าว ส่งผลให้ภาพลักษณ์จังหวัดเชียงใหม่เสื่อมเสีย และมีผลกระทบต่อวัฒนธรรมประเพณีล้านนา ทำให้ชาวเชียงใหม่ไม่พอใจกับพฤติกรรมดังกล่าวอย่างมาก ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้รับผลประโยชน์จากการเผยแพร่คลิปดังกล่าว เนื่องจากได้เผยแพร่คลิปอนาจารลามกว่า 70 คลิปแล้ว เพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ ดังนั้นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด” พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวอีกว่า ขอแนะนำผู้ที่นำคลิปลามกอนาจาร เผยแพร่ทางโซเซียลมีเดีย มีความผิดอาญาทั้งคนถ่าย ผู้เผยแพร่ ขายรูป หรือตั้งกลุ่มลับเพื่อหาผลประโยชน์จากคลิปดังกล่าว รวมทั้งผู้ที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นหรือคอมเม้นท์ ครอบครอง ส่งต่อหรือแชร์ อาจไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดโดยตรง แต่เป็นผู้สนับสนุนการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารทางอ้อม ซึ่งมีโทษปรับ ดังนั้นไม่ควรโพสต์ หรือแชร์ต่อใด ๆ ถือเป็นการสนับสนุนกระทำผิดกฎหมายด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายพร้อมหลักฐาน ประกอบด้วยสื่อลามกอนาจาร สมุดเงินฝาก มือถือ และยานพาหนะก่อเหตุ ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ. สารภี เพื่อสอบปากคำ บันทึกประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อประกอบสำนวนคดี และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป