รู้จัก “ฟาสต์เฟอร์นิเจอร์” เฟอร์นิเจอร์ราคาถูก ไร้คุณภาพ แถมยังทำลายสิ่งแวดล้อม

ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสุขภาพมากขึ้น ปรากฏการณ์ "ฟาสต์เฟอร์นิเจอร์" หรือการซื้อเฟอร์นิเจอร์ราคาถูกที่ผลิตจำนวนมากแบบไร้คุณภาพ กำลังกลายเป็นประเด็นที่หลายคนเริ่มตั้งคำถาม
“ฟาสต์เฟอร์นิเจอร์” คือ เฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตด้วยกระบวนการที่รวดเร็วและราคาถูก ซึ่งมักจะออกแบบให้ใช้งานได้ไม่นานและมีแนวโน้มที่จะถูกทิ้งหลังจากใช้เพียงไม่กี่ปี ทำให้เกิดขยะจำนวนมากในแต่ละปี นอกจากนี้ เฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตในลักษณะนี้มักมีการใช้สารเคมีอันตราย เช่น PFAS (สารเคมีชั่วนิรันดร์) ซึ่งมีความเสี่ยงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างสูง และสาร VOCs (สารระเหยอินทรีย์) ที่ปล่อยออกมาจากเฟอร์นิเจอร์ใหม่ก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะสารเหล่านี้สามารถทำให้เกิดอาการระคายเคืองระบบทางเดินหายใจและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการลดผลกระทบจากฟาสต์เฟอร์นิเจอร์ คือการเลือกใช้ “เฟอร์นิเจอร์มือสอง” ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังเป็นทางเลือกที่ยั่งยืน โดยช่วยลดขยะเฟอร์นิเจอร์จำนวนมากที่มักลงเอยในหลุมฝังกลบ ข้อมูลจากออสเตรเลียระบุว่าในแต่ละปี มีขยะเฟอร์นิเจอร์จากภาคธุรกิจมากถึง 30,000 ตัน โดย 95% ถูกนำไปฝังกลบ และยังไม่มีการรวบรวมข้อมูลจากภาคครัวเรือนอย่างชัดเจน
เฟอร์นิเจอร์มือสองยังมีข้อดีสำหรับสุขภาพ เพราะมักไม่มีสาร VOCs ที่ระเหยออกมาในช่วงแรกของการใช้งาน และยังสามารถเลือกชิ้นงานที่ใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้จริง ผ้าลินิน หรือขนสัตว์ ซึ่งปลอดภัยกว่าวัสดุสังเคราะห์ที่อาจปล่อยไมโครพลาสติกสู่สิ่งแวดล้อมภายในบ้าน
นอกจากนี้ การเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้จริง ผ้าลินิน หรือขนสัตว์ ก็มีข้อดีทั้งในแง่ของสุขภาพและความยั่งยืน การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติมักจะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าผลิตภัณฑ์จากวัสดุสังเคราะห์หรือพลาสติก ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อยครั้ง ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้วัสดุธรรมชาตินั้นยังสามารถทำให้บ้านของเรามีบรรยากาศที่น่าอยู่และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยคุณสมบัติที่ระบายอากาศได้ดีและไม่ก่อให้เกิดสารพิษในบ้าน
อย่างไรก็ตาม เฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพและผลิตอย่างยั่งยืนมักจะมีความทนทานสูง หากเกิดความเสียหาย เราก็สามารถซ่อมแซมได้ง่าย ไม่ต้องทิ้งไปพร้อมกับขยะ การซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก ปัจจุบัน หลายแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำก็ได้เริ่มมีบริการ ซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ หรือ โปรแกรมรับคืน เพื่อ refurbish เฟอร์นิเจอร์เก่าที่ยังสามารถนำมาใช้ได้อีกครั้ง
ในอนาคต ระบบ “Furniture Passport” อาจจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ของออสเตรเลีย โดยสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของวัสดุ การรับรองด้านสิ่งแวดล้อม และตัวเลือกในการซ่อมแซม หรือรีไซเคิล ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ยั่งยืนและปลอดภัยได้ง่ายขึ้น จนกว่าระบบนี้จะเกิดขึ้นในวงกว้าง ผู้บริโภคควรทำการค้นคว้าข้อมูลให้มากขึ้น และเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด