รีเซต

วัคซีน Pfizer ภูมิลดต่อเนื่อง ผลศึกษาชี้ กันโควิดเหลือ 20% หลังฉีดเข็มสองไป 5-7 เดือน

วัคซีน Pfizer ภูมิลดต่อเนื่อง ผลศึกษาชี้ กันโควิดเหลือ 20% หลังฉีดเข็มสองไป 5-7 เดือน
TNN ช่อง16
7 ตุลาคม 2564 ( 16:00 )
71

แต่ล่าสุด มีผลการศึกษาการฉีดวัควีน Pfizer ในโลกแห่งความเป็นจริงทั้งในอิสราเอลและกาตาร์ ที่ได้รับการเผยแพร่ในนิตยสาร New England Journal of Medicine ที่พบว่า ภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีน Pfizer ครบ 2 เข็ม ลดลง หลังจาก 2 เดือนเป็นต้นไป


แต่กระนั้น ก็ยังคงสามารถป้องกันการติดเชื้ออาการรุนแรง, การเข้าโรงพยาบาล หรือการเสียชีวิตได้สูงมากอยู่ดี ดังนั้น แม้กระทั่งคนที่ได้รับวัคซีน Pfizer ครบ 2 เข็มแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อ


◾◾◾

🔴 ผลการศึกษาในอิสราเอล


หนึ่งในการศึกษาในโลกแห่งความเป็นจริงจากประเทศอิสราเอล ซึ่งรวมถึงบุคลากรด้านสาธารณสุข 4,800 คน พบว่า ระดับภูมิคุ้มกัน หรือ แอนติบอดี ในร่างกาย ลดลง หลังจากที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้ชาย, คนวัย 65 ปีขึ้นไป และคนที่มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกัน


ผลการศึกษายังชี้ด้วยว่า ภูมิคุ้มกันในคนที่ฉีดวัคซีน หลังจากที่เคยติดเชื้อโควิด-19 มาแล้ว จะคงอยู่ได้นานกว่า และจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นสำหรับคนที่รักษาหายจากการติดเชื้อ และฉีดวัคซีนตามมา


◾◾◾

🔴 ผลการศึกษาในกาตาร์


ส่วนอีกผลการศึกษาในโลกความเป็นจริงจากกาตาร์ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนของ Pfizer-BioNTech


"หลังฉีดวัคซีนของ Pfizer เข็มแรก จะมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น และจะสูงสุดหลังจากฉีดเข็มที่ 2 ผ่านไป 1 เดือน จากนั้นภูมิคุ้มกันก็จะค่อย ๆ ลดลงหลังผ่านไปราว 4 เดือน" เล็ท อาบู-รัดดัด จากสถาบันการแพทย์ Weill Cornel Medicine-Qatar เผย


แต่ก็ยังยืนยันว่า วัคซีนยังป้องกันอาการหนัก, การเข้าโรงพยาบาลและการเสียชีวิตได้สูงกว่า 90% อยู่ดี


ทั้งนี้ การลดลงของระดับภูมิคุ้มกัน อาจเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมด้วย "เนื่องจากคนที่ได้รับวัคซีนแล้ว ก็อนุมานได้ว่า จะมีการพบปะสังสรรกันมากกว่าคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน และมีมาตรการดูแลตัวเองที่น้อยลง"


พฤติกรรมเหล่านี้ อาจทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนในโลกแห่งความเป็นจริง น้อยกว่าประสิทธิภาพจากการทดลอง และอาจเป็นการอธิบายถึงการป้องกันที่ลดน้อยลงได้


◾◾◾

🔴 การป้องกันลดลงเหลือ 20% ในเดือนที่ 5-7


สำหรับผลการศึกษาในทั้ง 2 ประเทศ ล้วนสนับสนุนและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และพบว่าประสิทธิภาพของวัคซีน Pfizer-BioNTech นั้นลดลงไปในช่วงระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน


โดยการป้องกันการติดเชื้อ ลดลงจาก 77.5% ระหว่างช่วงเดือนแรกหลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ลงเหลือ 20% ในช่วงเดือนที่ 5-7 หลังฉีด 2 เข็ม


ส่วนการป้องกันอาการรุนแรง และการเสียชีวิตยังคงสูงอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยพบว่าสูงถึง 96% ในช่วง 2 เดือนแรกหลังฉีด 2 เข็ม และยังคงอยู่ในระดับนี้ไปอีกราว 6 เดือน


นักวิจัยสรุปว่า การป้องกันการติดเชื้ออาการรุนแรง, เข้าโรงพยาบาล และเสียชีวิตนั้น ยังคงสูง และมีระยะเวลายาวนานกว่าการป้องกันการติดเชื้อ


◾◾◾

🔴 แม้ฉีดวัคซีนมากก็ต้องระวังการระบาดอยู่ดี


นักวิจัยยังคงเตือนว่า มีสัญญาณที่บ่งชี้ว่า หลายประเทศควรต้องเร่งเดินหน้ารับมือกับการระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะแม้ว่าจะมีอัตราการฉีดวัคซีนประชากรสูงแล้ว ก็อาจมีระดับภูมิคุ้มกันที่ลดต่ำลง ในช่วงไม่กี่เดือนถัดมา และอาจนำมาสู่การระบาดระลอกใหม่ได้


และผลการศึกษาเหล่านี้เอง ที่ทำให้หลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ร่ำรวย ต้องเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นโดยเร็วและกว้างขวางที่สุด เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต้องการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นวงกว้าง


แต่ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ CDC เพียงอนุมัติการฉีดสำหรับกลุ่มคนสูงวัย 60 ปีขึ้นไป, บุคลากรด่านหน้า รวมถึงคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันฉีดเข็มกระตุ้นไปแล้วมากกว่า 6 ล้านคน


ส่วนอิสราเอลเดินหน้าฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ประชาชนทุกคน และออกมาตรการใหม่ว่า การฉีดวัคซีนครบ คือการฉีดเข็มที่ 3 ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง