มาแน่! New Normal จริตชีวิตใหม่ของคนยุค Post-Covid19

"New Normal" ถูกใช้ทับศัพท์ให้หมายถึงวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังคนทั้งโลกต้องปรับและจัดระเบียบการดำรงชีวิตเพื่อรับมือการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของ COVID-19 สำหรับภาษาไทยนั้น ราชบัณฑิตยสถานระบุว่า หมายถึงความปกติใหม่ , ฐานวิถีชีวิตใหม่ หมายถึงรูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างใหม่ที่แตกต่างจากอดีต

มีข้อค้นพบจากการศึกษาวิจัยที่ได้ตีพิมพ์ลงใน European Journal of Social Psychology นักวิจัยชื่อ Phillippa Lally และทีมงานจาก  University College London เกี่ยวกับผลของโปรแกรมเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมจำนวนหนึ่งระบุว่า โดยทั่วไปการสร้างหรือเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยของบุคคลเกิดขึ้นได้ต้องใช้ เวลา 66 วัน หรือประมาณ 2 เดือน คนทั้งโลกเผชิญและผ่านการต่อสู่กับการแพร่ระบาดของ COVID-19 มานานกว่านั้น และทำท่าว่าจะมีระยะเวลาต่อไปอีกยาวนานไม่น้อย เพราะระยะเวลาการระบาดของโรคตามปกติ จะยาวนานเป็นปี หรือจนกว่าจะมีวัคซีนและยารักษา ดังนั้น พฤติกรรมของมนุษย์ที่ถูกปรับเปลี่ยนเพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดในวิถีประจำวัน จึงจะกลายเป็นนิสัยใหม่ของมวลมนุษยชาติ จนกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ หรือ New Normal นั่นเอง

New Normal ในมิติต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น...

- การรักษาสุขอนามัยประจำตัว ล้างมือทุกครั้งที่มีโอกาส ใช้เจลแอลกอฮอล์ พกกระดาษเปียกฆ่าเชื้อ ซักผ้าด้วยน้ำยาที่ฆ่าเชื้อได้ อาบน้ำทันทีที่เข้าบ้าน

- การป้องกันระบบทางเดินหายใจ การสวมหน้ากากอนามัย

- การส่งเสริมสุขภาพ ออกกำลังกาย ตรวจสุขภาพ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ใส่ใจเรื่องการพักผ่อนทั้งกายและใจ เลือกเสริมวิตามินเพื่อเพิ่มความแข็งแรง

- รักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

- ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ที่ใช้ประจำสม่ำเสมอ อาทิ โทรศัพท์มือถือ เมาส์คอมพิวเตอร์ แว่นตา กุญแจรถ

- เจลแอลกอฮอล์กลายเป็นของใช้จำเป็น มีให้ใช้ฟรีตั้งแต่ห้าง ร้าน อาคาร ไปจนร้านสะดวกซื้อ 

- สะสมกักตุนอาหาร ยา อุปกรณ์ด้านอนามัย เช่น หน้ากาก แอลกอฮอล์ ถุงมือยาง มากขึ้น

- เลิกนิสัยสร้างความเสี่ยงทางสุขภาพ เช่น ขยี้ตา ขยี้จมูก 

-  เลือกใช้บริการทางการแพทย์ในรูปแบบ Virtual Hospital , Telemedicine และรับยาทางไปรษณีย์ รวมถึงบริการรับส่งยารักษาโรคมากขึ้น

- ใช้บริการดิลิเวอรี่มากขึ้น ทั้งอาหาร ของสด ผลไม้ รับส่งพัสดุ 

- ซื้อของออนไลน์มากขึ้น เดินชอปปิ้งตามตลาดหรือห้างสรรพสินค้าน้อยลง

- ธุรกิจ Online บานสะพรั่ง กิจการไหนเป็น Offline,Old School ต้องรีบปรับเปลี่ยน

- เนื่องจากธุรกิจ Online ได้รับความนิยมก้าวกระโดด มาตรฐานการจัดส่ง ไปจนถึง Local Brand จะพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีขึ้นตามกลไกตลาด

- เดินทางท่องเที่ยวน้อยลง โดยเฉพาะต่างประเทศ

- รูปแบบชีวิตช้าลง มีงานอดิเรกอนาล็อกมากขึ้น เช่น เล่นหรือฟังดนตรี เลี้ยงสัตว์ ปลูกต้นไม้ อ่านหนังสือ

- รูปแบบชีวิตติดจอมากขึ้น ทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน สตรีมมิ่งผ่านสมาร์ททีวี

- ติดบ้านมากขึ้น คุ้นชินกับการใช้เวลากับครอบครัว

- ประหยัดมากขึ้น เก็บออมเงินมากขึ้น

- มองหาอาชีพที่สองสำรองกรณีฉุกเฉิน

- ระบบออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้นเป็นเท่าตัว ทั้ง Work from Home , Telehealth , Online Study, Online Shopping โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ช่วยทำให้การรักษาระยะห่างทางกายภาพ ไม่กระทบการปฏิสัมพันธ์

- Social Media กลายเป็นสื่อหลัก

- เปิดรับวิถีใหม่ๆ เช่น ดูคอนเสิร์ต Online , ดูแข่งกีฬาสดๆ ผ่าน Online (แบบไม่เปิดให้ชมในสนาม) , ทำกิจกรรมทางศาสนาออนไลน์ (เช่นเวียนเทียน) 

- ติดนิสัยเลี่ยงสถานที่คนเยอะ แออัด 

- บางคนและบางบริษัท WFH ถาวรหลังพบว่าไม่จำเป็นต้องเข้าบริษัทก็สามารถทำงานได้ 

- ระบบการเงินต่างๆ ก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด อย่างเต็มตัวมากขึ้น ทั้งบริการธนาคาร Online การจ่ายเงิน โอนเงิน ชำระบิลต่างๆ เติมเงินบริการ ไปจนจับจ่ายใช้สอย 

เมื่อเกิดขึ้นใดสิ่งหนึ่ง มักจะโยงไปสิ่งใดสิ่งหนึ่งเสมอ COVID-19 เป็นการแพร่ระบาดครั้งสำคัญที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดครั้งหนึ่งของโลก แน่นอนว่า ความเปลี่ยนแปลง ย่อมต้องเกิดขึ้นมากมายและเป็นลูกโซ่ แตกแขนงออกไป จนกว่ามนุษย์จะรู้สึกว่า ปลอดภัย คุ้นชิน และจริตชีวิตแบบ "ปกติใหม่" ก็จะกลายเป็น "ความปกติ" ในที่สุด

เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand