โควิดพันธุ์ใหม่ KP.2 หมอเตือนใครอยู่กลุ่มนี้? เสี่ยงปอดอักเสบ - อาการรุนแรง
แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ เผยถึงสถานการณ์โควิดสายพันธ์ใหม่ KP.2 เริ่มมีจำนวนพุ่งสูง สาเหตุมาจาก ติดเชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ JN.1 โดยย้ำว่าสายพันธุ์ใหม่นี้ อาการไม่รุนแรง แต่เตือนให้เฝ้าระวังกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวที่อาจมีโอกาสเชื้อลงปอดได้เร็วกว่ากลุ่มคนอื่น เนื่องจากวัคซีนปัจจุบันยังไม่สามารถป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ได้
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เปิดเผยถึง เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ย่อยใหม่ล่าสุด KP.2 ว่า เป็นสายพันธุ์โควิดที่ติดคนไปทั่วได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเคยติดเชื้อไวรัสโควิดมาแล้วหรือฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้วก็ตาม รวมถึงคนที่ยังไม่เคยติดเชื้อแม้แต่ครั้งเดียว ก็มีโอกาติดได้
สำหรับโควิดสายพันธุ์ย่อยใหม่ล่าสุด KP.2ความรุนแรงของอาการลดลงกว่าเดิมโดยผู้ที่ติดเชื้อจะติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน คือ จมูกและคอ มากกว่า ทางเดินหายใจส่วนล่าง คือ หลอดลมและปอด อาการทั่วไปของผู้ติดเชื้อคือเจ็บคอ น้ำมูกไหล คัดจมูก มีไข้ ไอเล็กน้อย โดยวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันสายพันธุ์ XBB.1.5 เมื่อเชื้อเป็น kp.2 ทำให้วัคซีนมีประสิทธิภาพการป้องกันก็ลดลงมากพอสมควร
นพ.มนูญ ย้ำว่า “กลุ่มผู้มีโรคประจำตัวหรือกลุ่ม 608” ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ หากติดเชื้อ KP.2 สามารถลงปอดและอาการรุนแรงได้ สำหรับคนสูงอายุและคนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เมื่อทราบว่าตัวเองติดเชื้อไวรัสโควิด รีบไปพบแพทย์เร็วที่สุดเพื่อรับยาต้านไวรัส เพื่อลดความรุนแรงของอาการ
สำหรับยอดการติดเชื้อปัจจุบันไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าหน้าฝนโควิดแพร่กระจายง่าย คนติดเชื้ออาจจะเพิ่มขึ้นกว่านี้ สำหรับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (ตั้งแต่วันที่ 9–15 มิถุนายน 2567) พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล 2,881 ราย เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 119 ราย เป็นผู้ป่วยอาการรุนแรงปอดอักเสบ 748 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 339 ราย เสียชีวิต 7 ราย
นอกจากนี้ ยังระบุว่า เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ย่อยใหม่ล่าสุด KP.2 ระบาดแซงหน้าไวรัสโควิดตัวปัจจุบัน JN.1 ในหลายประเทศเช่น สหรัฐอเมริกาและ สิงคโปร์แล้ว ซึ่งกำลังจะมาแทนที่เชื้อไวรัส JN.1 ทั่วโลก และอีกไม่นานจะต้องเฝ้าระวังสายพันธุ์ KP.3 โดยขณะนี้เริ่ม พบการติดเชื้อแล้วในหลายประเทศ
ภาพจาก: AFP