สาวโดนโรคจิตดักติด AirTag ในรถ โชคดีไอโฟนแจ้งเตือนทัน!
หญิงสาวคนหนึ่งในสหรัฐอเมริกาตกใจสุดขีดเมื่อพบว่ามีโรคจิตแอบติด AirTag หรืออุปกรณ์ติดตามของ Apple ไว้ในรถ โชคยังดีที่ iPhone ของเธอแจ้งเตือนการติดตามนี้ได้ก่อนเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น
เธอเล่าว่าระหว่างทางไปทำงาน ขณะที่กำลังต่อ iPhone เพื่อฟังเพลง จู่ ๆ iPhone ก็แจ้งเตือนว่ามีอุปกรณ์ AirTag ที่ไม่รู้จักอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งพอมองหาไม่นานก็เจอว่ามันถูกแปะเทปไว้ใกล้ที่นั่งคนขับมาก ๆ
เธอจึงรีบห่อเจ้า AirTag ใส่ถุงพลาสติกและนำไปแจ้งตำรวจ โดยเธอเองคาดว่าคนร้ายน่าจะฉวยโอกาสแอบมาแปะไว้ ตอนที่เธอออกไปซื้อต้นคริสต์มาสต์มาตกแต่งบ้าน ซึ่งอาจจะเป็นช่วงขนของขึ้นรถที่ต้องเปิดประตูรถทิ้งไว้นาน ๆ
น่าเสียดายที่ตำรวจยังไม่มีเบาะแสในคดีนี้ว่าใครทำ แต่เจ้าหน้าที่จากกรมตำรวจเมืองพารากูล์ด (Paragould) รัฐอาร์คันซอ ผู้รับแจ้งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้เริ่มมีมาให้เห็นเรื่อย ๆ ดังนั้นจะต้องระวังตัวกันมากขึ้น
เพราะนอกจากเคสของหญิงคนนี้แล้ว เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาพึ่งมีกรณีคล้ายกันเกิดขึ้นกับหญิงคนหนึ่งใน LA โดยเธอพบว่ามีคนแอบเอา AirTag มาติดไว้บริเวณหลังป้ายทะเบียนรถ และที่เจอก็เพราะว่า iPhone ของน้องสาวเธอแจ้งเตือนว่ามี AirTag ใกล้ตัวเช่นกัน
และหลังจากเกิดเรื่องลักษณะนี้เยอะขึ้น Apple ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ล่าสุดจึงเตรียมอัปเดต iOS 15.2 ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาได้ว่ามีอุปกรณ์ติดตามอยู่ใกล้ตัวเราบ้างหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก
สำหรับ AirTag เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ Apple ที่นักวิจารณ์หลายคนยกว่าน่าสนใจที่สุดในตลาด โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถช่วยติดตามสิ่งของ เช่น จักรยาน กระเป๋า มอเตอร์ไซค์ หรือแม้แต่เอาไปห้อยไว้กับปลอกคอของสัตว์เลี้ยงก็ได้
ดังนั้น หากพิจารณาดูอย่างถ่องแท้ AirTag ถูกสร้างมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามของหายได้ง่ายขึ้น เช่นกรณีของ ชายคนหนึ่งในนิวยอร์ก ที่ได้สกู๊ตเตอร์คืนมาเพราะ AirTag โดยเขาตามพิกัดเอง จนไปเจอกับร้านรับซื้อสกู๊ตเตอร์มือสอง และได้สกู๊ตเตอร์ของตัวเองคืนมาในที่สุด
เพราะฉะนั้นแล้วเทคโนโลยีจะสร้างประโยชน์ หรือสร้างโทษ ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้งานจะนำไปใช้งานอย่างไร ส่วนเราทุกคนแม้ว่าจะไม่ได้เจนจัดเรื่องเทคโนโลยี แต่ก็ต้องรู้ไว้ให้รอบด้านจะได้ช่วยป้องกันไม่ให้เรา ต้องเจอกับคนร้าย ที่จะมาฉวยโอกาสจากเรา
ขอบคุณข้อมูลจาก