'หมอนิธิพัฒน์' ชี้ แนวต้านสามหมื่นอยู่ไม่ไหว ยอดผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้น
'หมอนิธิพัฒน์' ชี้ แนวต้านสามหมื่นอยู่ไม่ไหว ยอดผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นทีละน้อย ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิต อาจถูกทลายลงในไม่ช้า
วันที่ 19 ก.พ.65 รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล ความว่า แนวต้านที่สามหมื่นอยู่ไม่ไหว ยอดรวมวันนี้เพิ่มอีกหลักพัน แต่แนวรับผู้เสียชีวิตที่ 30 คน ซึ่งยังพอยันอยู่อาจถูกทลายลงในไม่ช้า เพราะยอดผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
สำหรับการฉีดวัคซีนเข็มพื้นฐานช่วงนี้เพิ่มขึ้นอืดหน่อย เพราะฉีดกันไปเยอะแล้ว ต้องปรับกลยุทธ์ให้เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ที่ลังเลหรือเปลี่ยนใจ ก่อนที่พวกเขาจะถอนตัวเพราะไม่อยากรอหรือเพราะป่วยจากโควิดเสียก่อน ส่วนการยอมให้ฉีดวัคซีนสูตรไขว้ในเด็กโตและเด็กเล็ก คงช่วยคลายกังวลให้ผู้ปกครองได้ส่วนหนึ่ง และทำให้ฉีดเร็วและภูมิขึ้นเร็วสำหรับบางสูตรด้วย
เข้าสู่ฤดูกาลฝุ่นตลบในทุกภูมิภาคของประเทศแล้ว (ไม่ใช่หมายถึงการโยกย้ายข้าราชการ) ยกเว้นดินแดนด้ามขวานในภาคใต้ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงฟ้าใสและน้ำทะเลสวยแบบไร้ฝุ่น หรือทะเลในภาคตะวันออกซึ่งดีไม่แพ้กัน ยกเว้นคราบน้ำมันรั่วในบางจุดที่ยังขจัดกันไม่ยอมหมด ที่หนักหน่อยคงเป็นในภาคเหนือของเราที่ปัจจัยหลักของฝุ่นมาจากการเผาพื้นที่เกษตรกรรมและไฟป่าน้ำมือมนุษย์
ซึ่งเป็นต้นตอหลักของตัวร้ายทั้งขนาดเล็ก PM10 และเล็กจิ๋ว PM2.5 ที่กำลังขึ้นสูงอยู่ในขณะนี้ ที่จริงยังมีมลพิษในอากาศที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และต้องคอยจับตาด้วยอีก คือ โอโซน ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ และ คาร์บอนมอน็อกไซด์ ดีว่าช่วงนี้มีฝนหลงฤดูเข้าแทรก ฝุ่นที่สูงมากเมื่อสองสามวันก่อนจึงเจือจางลงไปชั่วคราวก่อนจะกลับขึ้นมาสูงใหม่จนกว่าเข้าหน้าฝนอย่างเป็นทางการ
คณะนักวิจัยจากอเมริกา สนใจเรื่องผลกระทบของมลภาวะทางอากาศในพื้นที่มลรัฐนิวยอร์ค กับการตายจากโรคโควิด-19 ในช่วงที่ระบาดระลอกแรก พบว่าพื้นที่ซึ่งมีมลพิษสูง ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดก็จะสูงเป็นเงาตามตัวไปด้วย โดยเฉพาะ PM2.5 ที่สูงนั้นจะส่งผลให้มีการติดเชื้อโรคโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น และเมื่อติดเชื้อแล้วก็จะมีโอกาสเสียชีวิตสูงขึ้นด้วย
ระหว่างการประชุมประจำปีของหมอปอดสองวันครึ่งที่จะจบในวันนี้ เนื้อหาอัดแน่นเต็มหูเต็มตาตลอดเช้าจรดเย็นเกือบค่ำ (7.30-17.45 น.) เว้นวันนี้ขอครึ่งวันเพื่อจะได้พักผ่อนก่อนแยกย้ายกลับถิ่นไปทำงาน คงจุใจทั้งสมาชิกคนออนไลน์และคนที่ว่างมาออนไซต์
ช่วงนี้อากาศที่พัทยาวิปริตมีฝนหลงฤดูเข้ามา พอมีจังหวะฟ้าเปิดและสมองล้า จึงแว่บออกไปสัมผัสแดดสวยน้ำใสให้พอจะช่วยเยียวยาจิตใจได้บ้าง หน้าร้อนนี้ไปเที่ยวทั่วไทยกันเยอะๆ เพื่อจะได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กระเตื้องเร็วขึ้น แต่อย่าลืมระมัดระวังตัวเองและครอบครัวให้ห่างไกลจากโควิดด้วยนะครับ
นับจากวันนี้ผมพ้นตำแหน่งนายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ อย่างเป็นทางการแล้ว หลังดำรงตำแหน่งสองวาระติดต่อกันในช่วงปี 2561-2564 ต่อจากนี้การแสดงความเห็นสู่สาธารณะเป็นเรื่องส่วนบุคคล หากจะอ้างอิงหรือส่งต่อ ให้เอ่ยถึงบุคคลแล้วกันนะ หรือจะใช้อดีตนายกสมาคมฯ ก็คงพอถูไถไปได้