ตอบข้อสงสัย ติดโควิดแล้วมีน้ำมูก กินยาลดน้ำมูกได้หรือไม่?

วันนี้ (11 พ.ค.65) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 เผยข้อมูลผู้ป่วยที่เชื้อโควิด-19 ติดโควิดแล้วมีน้ำมูก นั้น สามารถกินยาลดน้ำมูกได้ ส่วนในเด็กเล็กให้ใช้ลูกยางหรืออุปกรณ์เพื่อดูดน้ำมูกออกจากจมูก

ภาพจาก ศูนย์ข้อมูล COVID-19

ขณะที่ วันนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,650 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 7,587 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 21 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 39 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 3 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 9,736 ราย

พบผู้เสียชีวิต 56 ราย เป็นเพศชาย 31 ราย เพศหญิง 25 ราย สัญชาติไทย 56 ราย อายุเฉลี่ย 78 ปี (อายุระหว่าง 38-98 ปี) แยกเป็น ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 47 ราย คิดเป็น 84% ผู้มีอายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 9 ราย คิดเป็น 16%

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 4,345,218 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 9,322 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 29,252 ราย

จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 2,463 ราย, ขอนแก่น 308 ราย, มหาสารคาม 241 ราย, อุบลราชธานี 238 ราย, บุรีรัมย์ 232 ราย, สมุทรปราการ 198 ราย, ชลบุรี 189 ราย, สุรินทร์ 178 ราย, ร้อยเอ็ด 178 ราย และชัยภูมิ 167 ราย

ขณะที่สถานการณ์การระบาดทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 518,440,513 ราย เสียชีวิต 6,280,181 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา 83,778,760 ราย อันดับ 2 อินเดีย 43,110,185 ราย อันดับ 3 บราซิล 30,594,388 ราย อันดับ 4 ฝรั่งเศส 29,021,224 ราย และอันดับ 5 เยอรมนี 25,490,156 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 24

ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูล COVID-19

ภาพจาก Reuters