รีเซต

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (3 เม.ย.2565)

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (3 เม.ย.2565)
Ingonn
3 เมษายน 2565 ( 16:34 )
261

ข่าววันนี้ สถานการณ์วิกฤต "รัสเซียยูเครน"กองทัพยูเครนสามารถเข้าควบคุมพื้นที่โดยรอบกรุงเคียฟเอาไว้ได้หมดแล้ว หลังจากรัสเซียถอนกำลังทหารออกไป ทำให้พบร่องรอยความเสียหายและผู้เสียชีวิตจำนวนมากในเมืองเออร์ปิน, เมืองบูชา และฮอสโตเมล ซึ่งเครื่องบินลำใหญ่ที่สุดในโลก ถูกทำลายเหลือแต่ซาก อ่าน : เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (2 เม.ย.2565)


เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (3 เม.ย.2565)

 

อิตาลีเผย พร้อมรับรองสถานะเป็นหลางยูเครน สร้งความมั่นใจ "ยูเครนไม่เข้าร่วมนาโต"

รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลีเผย อิตาลีกำลังหาหนทางสร้างสันติภาพกลางวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน และเต็มใจที่จะเป็นผู้รับรองสถานะความเป็นกลางให้กับยูเครน


สำนักข่าว RT รายงานว่า ลุยจิ ดิ ไมโอ รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลีระบุว่า อิตาลีกำลังทำงานอย่างไม่ลดละ เพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ผ่านการคว่ำบาตร แต่ก็ไม่เคยละทิ้งช่องทางการทูต และว่า ความต่อเนื่องของการเจรจาระหว่างสองชาติและการยุติความขัดแย้งเพื่อมนุษยธรรม ถือเป็นเรื่องสำคัญ


ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอิตาลี เกิดขึ้นหลังจากเขาพบปะกับ เจย์ฮุน เบย์รามอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซอร์ไบจาน ในบากู เมืองหลวงอาเซอร์ไบจาน


พร้อมยอมรับว่า ความคืบหน้าดังกล่าว เกิดขึ้นระหว่างการเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน ในตุรกีเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดิ ไมโอ กล่าวเสริมว่า อิตาลีพร้อมที่จะเป็นผู้ค้ำประกันสถานะความเป็นกลางของยูเครน ซึ่งจะทำให้ยูเครนหลีกเลี่ยงการเป็นพันธมิตรกับกลุ่มทหารใด ๆ 


โดยการจัดตั้งสถานะดังกล่าว เป็นการสร้างความมั่นใจว่า ยูเครนจะไม่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางการทหารขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ และยังเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องหลักที่รัสเซียร้องขอด้วย


ทั้งนี้ รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และรับรองความเป็นสาธารณรัฐของโดเนสค์และลูฮันสค์ หลังจากขัดแย้งเกี่ยวกับความล้มเหลวของยูเครน ในการดำเนินการตามข้อตกลงสันติภาพมินสค์ที่ลงนามกันในปี 2014 


ขณะที่ ยูเครนระบุว่า การโจมตีของรัสเซียปราศจากการยั่วยุอย่างสิ้นเชิง และยูเครนปฏิเสธว่า ไม่ได้วางแผนที่จะยึดสาธารณรัฐทั้งสองกลับคืนมาโดยใช้กำลัง

 

ข้อมูล TNN World

 

สัญญาณบวก! เผย ‘รัสเซีย’ รับข้อเสนอ ‘ยูเครน’ แล้วแบบปากเปล่า

วันเดียวกันมีสัญญาณบวกมาจากเวทีเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน เมื่อนายเดวิด อราคาเมีย ตัวแทนเจรจาฝั่งยูเครนเปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นระบุว่า รัสเซียได้ตอบรับข้อเสนอของฝั่งยูเครนแล้วแบบ “ปากเปล่า” ยกเว้นเรื่องเกี่ยวกับแคว้นไครเมียซึ่งรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียตั้งแต่ปี 2557 ที่ผ่านมา

 

โดยนายอราคาเมียระบุว่าในบรรดาข้อเสนอที่รัสเซียตอบรับหนึ่งในนั้นคือการเปิดให้มีการทำประชามติเกี่ยวกับสถานะชาติเป็นกลางของยูเครน ซึ่งอราคาเมีย ระบุว่าเป็นทางออกเดียวที่จะออกจาสถานการณ์ปัจจุบันนี้ได้

 

นอกจากนี้ ยังระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการเจรจาสันติภาพขึ้นระหว่างนายเซเลนสกี และวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ประเทศตุรกี ซึ่งเสนอเป็นตัวกลางเพื่อยุติความขัดแย้ง

 

ข้อมูล มติชน

 

เจรจาคืบหน้าดี ใกล้ถึงจุดให้ "เซเลยกี-ปูติน" พบกัน

การเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนและรัสเซียมีความคืบหน้าจนเพียงพอที่จะเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญคือการเจรจากันระหว่างประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครนและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย


เดวิด  อาราคาเมีย  หัวหน้าคณะผู้แทนการเจรจาของยูเครน ระบุเมื่อวานนี้ (2 เมษายน) ว่า การเจรจาผ่านระบบวีดิโอลิงค์ของผู้แทนยูเครนและรัสเซีย เมื่อวันศุกร์ที่ 1 เมษายน รัสเซียยอมรับข้อเสนอของยูเครนทุกประเด็นยกเว้นเรื่องสถานภาพแคว้นไครเมีย ที่รัสเซียผนวกเอาจากยูเครนเมื่อปี 2014 


ทำให้มีโอกาสเป็นไปได้ที่ผู้นำยูเครนและรัสเซียจะได้ปรึกษาหารือกันโดยตรง แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้นได้ ยังต้องมีการทำงานหรือพูดคุยหารือกันอีกหลายเรื่อง


ฝ่ายรัสเซียยังไม่แถลงใด ๆ ถึงเรื่องดังกล่าว แต่นายวลาดิเมียร์ เมดินสกี หัวหน้าคณะผู้แทนการเจรจาของรัสเซีย ได้แถลงหลังการเจรจาเมื่อวันศุกร์ (1 เมษายน) ว่า จุดยืนต่อแคว้นไครเมียและภูมิภาคดอนบาสของรัสเซียไม่เปลี่ยนแปลง  


รัสเซียยืนกรานให้ยูเครนต้องยอมรับว่าแคว้นไครเมียเป็นของรัสเซีย และให้ยอมรับสถานะความเป็นรัฐอิสระของภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกซึ่งกลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียให้การสนับสนุนครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่

ข้อมูล TNN World

 

ยูเครนยึดพื้นที่รอบกรุงเคียฟได้ทั้งหมดแล้ว หลังรัสเซียถอนทหาร พิสูจน์ความจริงใจเจรจาสันติภาพ

กองทัพยูเครนสามารถเข้าควบคุมพื้นที่โดยรอบกรุงเคียฟเอาไว้ได้หมดแล้ว หลังจากรัสเซียถอนกำลังทหารออกไป ทำให้พบร่องรอยความเสียหายและผู้เสียชีวิตจำนวนมากในเมืองเออร์ปิน, เมืองบูชา และฮอสโตเมล ซึ่งเครื่องบินลำใหญ่ที่สุดในโลก ถูกทำลายเหลือแต่ซาก


เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครน แถลงว่า กองทัพยูเครนสามารถยึดคืนพื้นที่รอบกรุงเคียฟทั้งหมด หลังจากยิงต่อสู้กันอย่างดุเดือดในหลายเมืองและหลายหมู่บ้านรอบเมืองหลวงของประเทศในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ 


รัสเซียระบุว่าการถอนกำลังใกล้กรุงเคียฟนั้น เป็นการแสดงเจตจำนงในการเจรจาสันติภาพ แต่บรรดานักวิเคราะห์ชาติตะวันตกกล่าวว่า การปฏิบัติการทางทหารของพวกเขาถูกต้านทานจนหยุดชะงัก


เจ้าหน้าที่ยูเครน แถลงว่า ในเมืองเออร์ปิน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ มีพลเรือนอย่างน้อย 200 คนเสียชีวิต ตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และมีประชาชนมากกว่า 70,000 คน ที่เคยอาศัยอยู่ในเมืองนี้ พากันหลบหนีเมื่อเดือนที่แล้ว 


ส่วนเมืองบูชา ทหารยูเครนได้เคลื่อนกำลังเข้าไปยังเมืองดังกล่าวในช่วงวันหรือสองวันก่อน หลังจากที่ไม่สามารถเข้าเมืองได้เลยในระยะเวลาเกือบ 1 เดือน 


สำนักข่าว AFP รายงานในวันเสาร์ว่า พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คนบนถนนสายหนึ่ง ขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีของเมือง กล่าวว่า มีประชาชนเสียชีวิต 280 คน ถูกฝังในหลุมศพขนาดใหญ่ในเมืองนี้ และว่าเมืองนี้เกลื่อนไปด้วยซากศพ  


ขณะที่ในเมืองฮอสโตเมล ซึ่งก็อยู่ใกล้กับกรุงเคียฟด้วย มีการปะทะกันอย่างหนักตั้งแต่เริ่มต้นสงครามเพื่อควบคุมสนามบินแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่เก็บเครื่องบินขนาดใหญ่ที่สุดของโลก “อันโตนอฟ อัน-225 มรียา” (Antonov An-225 Mriya) ทหารรัสเซียทิ้งสนามบินฮอสโตเมล เหลือไว้แต่ซากเครื่องบินอันโตนอฟ อัน-225 มรียา

 

ข้อมูล TNN World

 

โป๊ปฟรานซิสพิจารณาเยือนกรุงเคียฟตามคำเชิญของผู้นำยูเครน

องค์ประมุขโรมันคาทอลิก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส กำลังพิจารณาที่จะเสด็จเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน ตามคำเชิญของประธานาธิบดี, นักการเมืองและผู้นำศาสนาในยูเครน 


สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก แถลงว่า พระองค์กำลังพิจารณาที่จะเสด็จเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน โดยผู้สื่อข่าวถามพระองค์บนเครื่องบินขณะเดินทางออกจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี ไปยังมอลตาว่า พระองค์พิจารณาคำเชิญจากบรรดานักการเมืองและผู้นำทางศาสนาในยูเครนหรือไม่ โป๊ปฟรานซิส ตอบว่า “ใช่ มันวางอยู่บนโต๊ะ” แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดมากกว่านี้ 


ทั้งนี้ พระสันตะปาปาฟรานซิส ได้รับคำเชิญจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน, วิตาลี คลิทสช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ, บาทหลวงซเวียโตสลาฟ เชฟชุค ของคริสตจักรคาทอลิก นิกายไบเซนไทน์-ไรต์ และอังเดรย์ ยูราช เอกอัครราชทูตของยูเครน ประจำนครวาติกัน ให้เสด็จเยือนกรุงเคียฟ โดยโป๊ปฟรานซิส ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเซเลนสกี และเชฟชุค แล้ว


นับแต่การบุกยูเครนของรัสเซีย ซึ่งรัสเซียเรียกว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” เพื่อทำให้ยูเครนปลอดทหาร พระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงประณามอย่างรุนแรงในสิ่งที่พระองค์ทรงเรียกว่า “การรุกรานอย่างไร้ความยุติธรรม” และประณาม “ความโหดร้าย” ในสงคราม

 

ข้อมูล TNN World

 

 

 

 

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง

ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง