รีเซต

SFLEXขยายฐานเวียดนาม เป้ารวม2พันล.เร่งเพิ่มกำไร

SFLEXขยายฐานเวียดนาม เป้ารวม2พันล.เร่งเพิ่มกำไร
ทันหุ้น
24 ตุลาคม 2568 ( 16:33 )
9

#SFLEX #ทันหุ้น - SFLEX มองครึ่งปีหลังผลงานขยับบวกหนุนเป้าปีนี้ส่อแตะ 2 พันล้านบาท บนฐานกำไรที่แน่นขึ้นหลังไม่มีรายการพิเศษ ส่วนต้นปีหน้าบุกบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนในเวียดนามต่อยอดจากกลุ่มลูกค้าเดิม ส่วนประเด็นน้ำมันถูกลงช่วยต้นทุนลดแต่ไม่ถึงกับมีนัยเพราะล็อกราคาไว้ล่วงหน้าแล้ว ทว่าเงินบาทแข็งส่งผลดีลงทุนเครื่องจักรรุ่นใหม่ถูกลง หวังดันกำลังผลิตขึ้นสู่ระดับ 2.4 พันล้านบาท

                ดร.สมโภชน์  วัลยะเสวี  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SFLEX เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมผลประกอบการครึ่งปีหลัง 2568 จะเติบโตต่อเนื่องเป็นไปตามแผนงาน สนับสนุนให้รวมทั้งปีรายได้ถึงเป้าหมาย 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 1,898.80 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมีรายได้รวมแล้ว 969.53 ล้านบาท

                ทั้งนี้สินค้าของบริษัทคือบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ทั้งรูปแบบบรรจุภัณฑ์ประเภทม้วนและบรรจุภัณฑ์ประเภทซองยังคงมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าอย่างเสถียรและเป็นคำสั่งซื้อล่วงหน้าระยะยาว โดยลูกค้ารายใหญ่ระดับชั้นนำในประเทศยังคงเชื่อมั่นใจคุณภาพมาตรฐานการผลิต พร้อมด้วยนวัตกรรมตอบโจทย์ได้เหนือกว่าคู่แข่ง อีกทั้งสินค้าที่ไปทำตลาดต่างประเทศก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากเช่นกัน

@เพิ่มฐานตลาดใหม่

                โดยตลาดต่างประเทศ ในเวียดนามบริษัทได้ร่วมทุนแบบ JV กับ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ในโรงงานกล่องกระดาษพรีเมียม ณ ประเทศดังกล่าว ซึ่งมียอดขายเติบโตต่อเนื่อง และบริษัทมีความสนใจที่จะนำธุรกิจ Flexible Packaging ที่ทำในไทยไปขยายที่เวียดนามด้วย เนื่องจากเชื่อมั่นในคุณภาพและเทคโนโลยีของไทย โดยมีกลยุทธ์ในการขยายตลาดกับลูกค้าเดิมที่ซื้อกล่องกระดาษอยู่แล้ว คาดว่าความชัดเจนด้านกลยุทธ์การลงทุนจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้า

                และแม้จะมีกระแสรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน แต่สินค้าพลาสติกก็ยังมีความจำเป็นต่อลูกค้า ขณะที่ในอีกแง่มุมหนึ่งหากมีการบริหารจัดการที่ดีจะยิ่งกลับเป็นการช่วยลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดมลภาวะได้ไปพร้อมๆ กับลดต้นทุนธุรกิจ สืบเนื่องจากซองพลาสติกอ่อนที่ได้มาตรฐานของ SFLEX นับเป็นนวัตกรรมที่ใช้เนื้อพลาสติกน้อยกว่า ยิ่งหากเปรียบเทียบกับบรรจุภัณฑ์ขวดแบบพลาสติกแข็งย่อมจะมีแก้วหรือขวดน้ำหนักต่อหน่วยที่เบากว่ามาก ประหยัดทั้งพื้นที่จัดเก็บในคลังสินค้าระดับหลายเท่าตัว อีกทั้งการเคลื่อนย้ายด้วยลักษณะเป็นม้วนใช้เพียงรถยนต์กระบะ 1 คัน จะได้จำนวนมากเทียบเท่าจำนวนการขนส่งบรรจุภัณฑ์แบบขวดนับ 6-10 คันรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงลดต้นทุนขนส่งได้หลายเท่าตัว

                นอกจากนี้สินค้าพลาสติกก็ยังมีนวัตกรรมที่ทำให้สามารถนำกลับมา Recycle ใช้ซ้ำได้ รวมไปถึงมีนวัตกรรม Biostable ย่อยสลายได้ด้วย

@ปัจจัยแวดล้อมบวก

                ขณะที่วัตถุดิบหลักคือพลาสติกราคามักแปรผันตรงตามราคาน้ำมัน ทว่าผลกระทบเชิงบวกที่แท้จริงในระหว่างปีที่น้ำมันเป็นขาลงยอมรับว่าไม่ได้มากอย่างมีนัยเพราะบริษัทมีการวางแผนในการสั่งซื้อวัตถุดิบค่อนข้างยาว รวมถึงบริษัทจะทราบแนวโน้มของราคาพลาสติกหรือวัตถุดิบที่เปลี่ยนแปลงจริงหลังจากราคาน้ำมันตลาดโลกเปลี่ยนทิศทางราว 2-3 เดือน ส่วนการตกลงราคาขายกับลูกค้าก็มีการปรับในทุกๆ ครึ่งปี หรือเต็มปี ทำให้หากราคาน้ำมันคงที่หรือขึ้นลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะเป็นผลดีต่อการบริหารจัดการได้ง่ายกว่าช่วงที่ราคาผันผวนไว

                อย่างไรก็ตาม ระหว่างปีที่้ผ่านมาบริษัทมีการลงทุนไลน์เครื่องจักรที่ทันสมัยเพื่อเสริมกำลังผลิต และยังมีแผนจะซื้อเพิ่มอีก 1 ตัวในปีหน้าในขณะที่ระยะที่ผ่านมาค่าเงินบาทแข็งเทียบกับสกุลดอลลาร์จะเป็นผลดีชัดต่อต้นทุนเครื่องจักรที่ถูกลงกว่าเคยประเมินไว้พอสมควร ปัจจุบันบริษัทใช้กำลังการผลิตอยู่ประมาณ 70% หากเติมเครื่องจักรใหม่ครบตามแผนจะช่วยขยายศักยภาพในการผลิตสินค้า ทำยอดขายจากประมาณ 2,200 ล้านบาท ขึ้นเป็นประมาณ 2,400 ล้านบาท ในปีหน้า

                “มั่นใจว่ารายได้ครึ่งปีหลังจะเติบโตต่อเนื่อง ตลาดในประเทศก็มีคำสั่งซื้อระยะยาวจากลูกค้ารายใหญ่ ส่วนเวียดนามก็โตดี เรามีการลงทุนเพิ่มศักยภาพการขายให้มากขึ้น อีกทั้งครึ่งปีหลังนี้กำไรน่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายด้วยจากปัจจัยแวดล้อมเป็นบวก และเราก็น่าจะไม่มีรายจ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเหมือนตอนครึ่งปีแรกอีกแล้ว”

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง