"ยาเสพติด" สงครามไร้เสียงที่นายกฯ กำลังท้าชน
เสพติดทำลายคุณภาพชีวิต สังคมไทยมีทางออกหรือไม่?
จากการประชุม ป.ป.ส. ครั้งที่ 2/2567 นายกแพทองธาร ชินวัตร ประกาศให้การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในสิบนโยบายเร่งด่วน หลังจากลงพื้นที่หลายจังหวัดและได้รับเสียงสะท้อนถึงผลกระทบที่เกิดจากยาเสพติด ทั้งต่อสุขภาพกายและใจ ความอบอุ่นในครอบครัว และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
จากการดำเนินการในช่วงมิถุนายน - 31 สิงหาคม 2567 ใน 25 จังหวัดนำร่อง ผลปรากฏว่าประชาชนมีความพึงพอใจที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นจากการจับกุมผู้ผลิตรายใหญ่หลายราย ทั้งนี้เป็นผลจากการทุ่มเทร่วมมืออย่างจริงจังของทุกภาคส่วน
แต่การแก้ไขปัญหาในวงกว้างทั่วประเทศยังคงต้องเดินหน้าต่อไป ทั้งการปราบปรามและป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่ระบาดในพื้นที่อื่น ปัจจุบันยังมีประชากรนอกระบบการศึกษาอยู่ประมาณ 200,000 คน ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจหันไปพึ่งพายาเสพติด จึงจำเป็นต้องสร้างโมเดลการดึงคนกลุ่มนี้กลับคืนสู่สังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิต ผ่านโอกาสทางการศึกษา ความรัก และความอบอุ่นในครอบครัว เพื่อป้องกันไม่ให้ก้าวเข้าสู่วังวนอุบาทว์ของยาเสพติด
ขณะเดียวกัน การป้องกันการนำเข้ายาเสพติดจากนอกประเทศก็เป็นอีกภารกิจสำคัญ รัฐบาลได้เห็นชอบให้ประกาศพื้นที่ปฏิบัติการพิเศษเพิ่มเติมในปี 2568 ใน 3 อำเภอชายแดนของจังหวัดตาก และจัดตั้งหน่วยสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดบริเวณชายแดนภาคเหนือ เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดจากแหล่งผลิตตั้งแต่ต้นทาง
ปัญหายาเสพติดไม่ได้จำกัดอยู่แค่การปราบปราม แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนด้วยโอกาสทางการศึกษาและสายใยครอบครัวที่แข็งแกร่ง เพื่อให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และไม่หลงผิดไปพึ่งพายาเสพติด เมื่อนั้นเราจะมีสังคมที่น่าอยู่ ปลอดภัย และคุณภาพชีวิตดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน