ASPS สแกนหุ้นถูก SHORT SELL หนักช่วงการเมืองร้อนแรง EA-DELTA ติดโผ

#ทันหุ้น-ฝ่ายวิจัยบล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS ได้ทำการคัดกรองหุ้นที่ถูก SHORT SELL เยอะในช่วงที่มีประเด็นการเมืองร้อนแรง 20 – 29 พ.ค. 2567 และมีโอกาสถูก COVER SHORT กลับมาได้แรง หากเห็นความคืบหน้ากฏ UPTICK RULE มีรายชื่อหุ้น และเม็ดเงิน SHORT SELL ดังตารางทางด้านลางนี้
ฝ่ายวิจัยเอเซีย พลัส แนะนำหุ้นพื้นฐานดี มีโอกาสได้แรงหนุนจากการ COVER SHORT สูง อย่าง SCC, CPALL, AOT, TOP, CPN, BEM, IVL, GPSC ฯลฯ
แม้กำไรบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 1/67 ออกมา 2.76 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้น 50%QOQ, ทรงๆ ตัว YOY) และดีกว่าที่ตลาดคาดถึง 19% แต่ความไม่แน่นอนทางการเมือง, MSCI REBALANCE และ FUND FLOW ไหลออกในช่วงนี้ส่งผลให้เห็นการรบกวนตลาดเพิ่มเติม ด้วยการ SHORT SELL ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯโดยวันที่ 20 – 29 พ.ค. 67 มีปริมาณการ SHORT SELL เพิ่มเข้ามา 4.0 หมื่นล้านบาท เฉลี่ย 5.7 พันล้านบาทต่อวัน ผสมกับมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยตลาดหุ้นไทยในช่วงดังกล่าวกลับลดลงเหลือเพียง 3.96 หมื่นล้านบาทต่อวัน กดดันให้สัดส่วนการSHORT SELL ต่อของมูลค่าซื้อขายรวมเฉลี่ย ในช่วงเวลาดังกล่าวขยับขึ้นมาอยู่ที่ 13.5% สูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต (ปี 64 6.6%, ปี 65 9.7%, ปี 66 10.6%, ปี67YTD 11.9%)
อย่างไรก็ตาม ในเชิง VALUATION ตลาดหุ้นไทยมี P/E ที่ลดลงมาจนถูกมาก โดยเหลือ FORWARD P/E เพียง 14.4 เท่า (ลดลงจากปลายปี 2565 ที่ 16.6 เท่า) และต่ำกว่าตลาดหุ้นโลก MSCI ACWI ที่ปัจจุบันซื้อขายบน FORWARD P/E ที่18.4 เท่า(ที่ทยอยสูงขึ้นปลายปี 2565 ที่ 15.3 เท่า)
ส่วนในระยะถัดไป ฝ่ายวิจัยฯ เชื่อว่าแรงกดดันดังกล่าว ในเดือน มิ.ย. 2567 มีโอกาสทยอยลดลง ทั้ง MSCI REBALANCE เสร็จสิ้น, การเมืองยังไม่นำไปสู่สถานะการณ์นอกกรอบกฏหมาย, หวังกระแส LTF ใหม่ ถ้าเกิดขึ้นเร็วจะช่วยเข้ามาทดแทน FUND FLOW ต่างชาติที่ไหลออกที่สำคัญ หากตลาดฯ ประกาศใช้กฏ UPTICK RULE (คาดช่วงปลายไตรมาสที่ 2)น่าจะหนุนให้เกิดการ COVER SHORT SELL ได้ดีเพราะในอดีตช่วงโควิดมีการใช้กฏนี้ส่งผลให้ปริมาณการ SHORT SELL ลดลงไปกว่า 79% เลยทีเดียว