ทหาร พล.ร.9 เร่งช่วยชาวบ้านขน หมูเกือบ 1 หมื่นตัว ใส่เรือหนีน้ำท่วม
ข่าววันนี้ 18 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกลงมาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีอย่างหนัก ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนวันที่ 16 ต.ค.64 ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้นำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่เกษตรกรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ถนนถูกน้ำท่วมเกือบตลอดทั้งสาย ระดับอยู่ที่ 1-2 เมตร โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หนองปรือ อ.บ่อพลอย อ.เลาขวัญ และ อ.ห้วยกระเจา สำหรับพื้นที่อำเภอบ่อพลอย ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือท้องที่ ต.หลุมรัง มีทั้งหมดจำนวน 18 หมู่บ้าน มีเนื้อที่ประมาณ 119.81 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 74,885 ไร่
มีพื้นที่การเกษตร 39,018 ไร่ และทางหลวงหมายเลข 3086 สาย บ่อพลอย-หนองปรือ นอกจากนี้ยังพบว่า มีฟาร์มเลี้ยงสุกรขนาดใหญ่อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.หลุมรัง ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยฟาร์มแห่งนี้มีลูกสุกรขนาดเล็ก น้ำหนักตัวอยู่ที่ประมาณ 5 กิโลกรัม อยู่ในฟาร์มแห่งนี้ประมาณ 1 หมื่นตัว ทางเจ้าของฟาร์มต้องเร่งขนย้ายลูกสุกรทั้งหมดออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย โดยต้องขนลงเรือท้องแบน ไปถ่ายใส่รถบรรทุกสิบล้อ ก่อนจะขนย้ายใส่รถคอกหมูต่ออีกทอด ซึ่งเป็นไปอย่างทุลักทุเล
โดย พลตรี บรรยง ทองน่วม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพลทหารราบที่ 9 ได้สั่งการให้กำลังพลจิตอาสา กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 19 (ร.19 พัน.2) ร่วมกับกองพันทหารช่างที่ 9 กองพลทหารราบที่ 9 (ช.พัน.9 พล.ร.9) จัดยุทโธปกรณ์เรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือทันที โดยเร่งทำการขนย้ายสุกรไปไว้ในที่ปลอดภัย ซึ่งล่าสุดขณะนี้ปริมาณน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำล่าสุดอยู่ที่ 1 เมตร และคาดว่าน่าจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง หากไม่เร่งขนย้ายข้าวของหรือทรัพย์สินออกในช่วงนี้ ก็จะจมน้ำเสียหาย
ส่วนสาเหตุการเกิดน้ำท่วมในครั้งนี้นอกจากจะมีปริมาณน้ำฝนที่ตกติดต่อกันมาหลายวันแล้ว ยังได้รับผลกระจากน้ำที่ล้นสปิลเวย์ลงมาจากอ่างเก็บน้ำวังโหรา อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ล้นมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยกระพร้อย อ.หนองปรือ และเอ่อล้นมาจากห้วยลำตะเพินอีกด้วย โดยระดับน้ำขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 1-2 เมตร น้ำได้ไหลเชี่ยวมากและในวันนี้หน่วยกู้ภัยทางน้ำมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ กู้ภัยกาญจนบุรี สมาคมกู้ภัยบ่อพลอย ขุนรัตนาวุธ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ระดมกำลังพร้อมเรือท้องแบนเร่งเข้าไปช่วยอพยพประชาชน ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยติดเตียง แต่กำลังมีไม่เพียงพอ ต้องประสานขอกำลังจากมูลนิธิในจังหวัดใกล้เคียง จากจังหวัดนครปฐม จ.ราชบุรี จ.สุพรรณบุรี เข้ามาสนับสนุนเพื่อระดมย้ายสิ่งของ ประชาชน สัตว์เลี้ยง เป็นการเร่งด่วนแล้ว เพื่อความปลอดภัย สำหรับอุทกภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี และเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยแต่ละเที่ยวต่างบอกว่าลำบาก และอันตรายมาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยว ปริมาณน้ำเริ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งศูนย์บัญชาการบรรเทาสาธารณภัย กองพลทหารราบที่ 9 จัดเตรียมพร้อมกำลังพลจิตอาสาและยุทโธปกรณ์ ในการเฝ้าติดตามสถานการณ์เฝ้าระวัง พายุโซนร้อน “คมปาซุ” อย่างใกล้ชิด เพื่อสามารถเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที