ส่องผลงานออกแบบสุดล้ำ ของสนามบินแห่งอนาคต !
อีกไม่นาน การท่องเที่ยวทั่วโลกกำลังจะกลับมาคึกคัก แต่ขณะเดียวกันจากพิษโควิด ก็ทำให้หลายสนามบินต้องการที่จะลดต้นทุนค่าใช้จ่าย โดยยังให้บริการผู้โดยสารได้เต็มที่ จากจุดนี้จึงเกิดเป็นแนวคิดการพัฒนา Next Gen Airport สนามบินแห่งอนาคต ใช้รถขับเคลื่อนอัตโนมัติ รับส่งผู้โดยสาร และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่จะปรับตัวสูงขึ้น ลดต้นทุนการสร้างทางเชื่อมอาคารยาว ๆ และยังลดเวลาในการเดินขึ้นเครื่องได้มากขึ้นด้วย
เอชโอเค (HOK) บริษัทออกแบบวิศวกรรมระดับโลกร่วมกับแอร์บิส (Airbiz) บริษัทที่ปรึกษาด้านการบิน เผยโฉมผังสนามบินใหม่ ที่ช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางภายในสนามบิน ทั้งระหว่างอาคารผู้โดยสาร และแต่ละอาคารเทียบเครื่องบิน และลดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินได้อย่างดี
โดยแนวคิดนี้ คือ การเปลี่ยนจากการมีโถงทางเดินยาว ๆ และมีทางเลื่อน ไว้เชื่อมแต่ละอาคารไม่ว่าจะเป็นอาคารเทียบเครื่องบิน หรืออาคารผู้โดยสาร มาเป็นการสร้างเส้นทางเดินรถไร้คนขับ รับส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ ระหว่างอาคารแทน
โดยสนามบินแห่งอนาคตนี้จะใช้ระบบ Group Rapid Transit ซึ่งเป็นยานพาหนะไฟฟ้าขนาดเล็กขับเคลื่อนอัตโนมัติ สำหรับรับส่งผู้โดยสารเป็นกลุ่ม ๆ ด้วยระบบนี้ ผู้โดยสารจะอยู่ที่อาคารผู้โดยสารที่ตัวเองเช็กอิน และแทนที่จะต้องเดินยาว ๆ ไปที่อาคารเทียบเครื่องบิน ซึ่งเป็นที่ตั้งประตูขึ้นเครื่องของเรา ก็เพียงแค่นั่งยานยนต์ไร้คนขับ จากอาคารผู้โดยสาร ตัดไปยังประตูขึ้นเครื่อง ไม่ต้องเดินแยกไปที่แต่ละอาคารเทียบเครื่องบิน หรือจะนั่งยานยนต์อัจฉริยะนี้ไปที่อาคารผู้โดยสารอีกแห่งก็ได้เช่นกัน
ซึ่งวิธีนี้ ก็จะช่วยลดการเดินทางไกล ๆ ภายในสนามบิน สะดวกกับผู้โดยสารที่เร่งรีบ คนชรา คนป่วย หรือผู้พิการ แถมยังทำให้มีเวลาเหลือไปทำกิจกรรมในพื้นที่รับรองของอาคารผู้โดยสารนั้น ๆ อีกด้วย
สำหรับแนวคิดนี้ ทางผู้ออกแบบบอกว่าจะช่วยลดการก่อสร้างบนพื้นผิว ได้มากถึงประมาณ 75% และยังไม่จำเป็นต้องมีบริการที่ซ้ำ ๆ กันในแต่ละอาคารทำให้จัดการได้ง่ายขึ้น และยังไม่ต้องใช้ทางเลื่อนอีกด้วย
และถึงแม้ว่าตอนนี้สนามบินแห่งอนาคต จะยังเป็นแค่ภาพแนวคิดคร่าว ๆ ก็นับว่าเป็นการออกแบบที่น่าสนใจ ทั้งในแง่ของการลดโครงสร้างอาคารที่ไม่จำเป็น และยังช่วยให้ผู้โดยสารเดินทางได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น เพิ่มประสบการณ์การเดินทางที่ดี และประหยัดเวลาให้กับนักเดินทางได้มากขึ้น
ข้อมูลจาก fastcompany, hok
ภาพจาก hok