สุราษฎร์ฯ ใช้งบ 50 ล้าน! จัด 4 โรงแรมกักตัวคุมโควิด
วันที่ 20 เมษายน 2563 ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะกรรมการอำนวยการและคณะกรรมการฝ่ายปฏิบัติการกักกันตัว (Local Quarantine)หลังปรากฏเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (COVID-19) ในหลายประเทศ
รวมถึงประเทศไทย ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อประชาชน โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โรคดังกล่าว เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของ ครม. ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ให้ประชาชนพึงงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดโดยไม่จำเป็น ในกรณีจำเป็นต้องเดินทางข้ามเขตพื้นที่ ต้องรับการตรวจคัดกรองแยกกักกัน สู่กระบวนการกักไว้เพื่อสังเกตอาการ (Local Quarantine) ในสถานที่จัดเตรียมไว้
ทั้งนี้จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน 50 ล้านบาท ในการดำเนินการและได้พิจารณาโรงแรมของภาคเอกชนเป็นลำดับแรก เนื่องจากมีความพร้อมในหลายด้าน และพิจารณาใช้อาคารสถานที่ของทางราชการเป็นสถานที่สำรอง ในการนี้มีผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีประสงค์ที่จะให้จังหวัดใช้สถานที่โรงแรมเป็นที่กักกันไว้เพื่อสังเกตอาการ จำนวน 4 แห่ง รวม 176 ห้อง ได้แก่ โรงแรมภูธาน ต.คลองไทร อ.ท่าฉาง จำนวน 44 ห้อง , โรงแรมซีทาวเวอร์ ต.วัดประดู่ อ.เมือง จำนวน 30 ห้อง , โรงแรม Aura Samui Beach ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จำนวน 69 ห้อง และโรงแรม Nora Lakeview Samui ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จำนวน 33 ห้อง นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลท่าโรงช้างไว้เป็นที่สำรองในการกักกันตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและพื้นที่เสี่ยง
อย่างไรก็ตามจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้ขณะนี้โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีซึ่งเป็นศูนย์รับริจาคโลหิตจากประชาชนกำลังขาดแคลนเลือดอย่างหนักเนื่องจากประชาชนไม่กล้าที่จะออกมาบริจาคเลือด หากออกมาก็ได้เพียงไม่กี่ถุงเท่านั้น ทำให้เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยที่ต้องการถ่ายเลือด