รีเซต

"อาลีบาบา คลาวด์" ประกาศเปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกของประเทศไทย

"อาลีบาบา คลาวด์" ประกาศเปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกของประเทศไทย
TNN ช่อง16
12 พฤษภาคม 2565 ( 20:22 )
146

อาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทย พร้อมสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลขององค์กรธุรกิจในประเทศ ซึ่งจะสอดรับไปกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ของรัฐบาล ที่จะเสริมสร้างความมั่นคง มั่งคั่งและความยั่งยืนให้กับประเทศ กำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการตามข้อกำหนดของกฎหมายในช่วงเดือนมิถุนายนนี้


อย่างไรก็ตาม ดาต้าเซ็นเตอร์ของอาลีบาบา คลาวด์ ได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO27001 และ ISO20000 และเป็นไปตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไทย  รวมถึงกฎระเบียบด้านการเงินที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยทั้งหมด


ดาต้าเซ็นเตอร์ของ "อาลีบาบา คลาวด์" ในประเทศไทยนี้ดีอย่างไร ?

  • เป็นการนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของอาลีบาบา คลาวด์ มานำเสนอในประเทศไทย รวมถึงองค์ความรู้เฉพาะทางด้านต่าง ๆ เช่น การฝึกอบรม การเสริมสร้างขีดความสามารถ และโอกาสทางการตลาดร่วมกัน เพื่อขยายการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ให้กับฐานลูกค้า ให้สามารถเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลได้เร็วขึ้น

  • เป็นการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ครบครันเพื่อช่วยผลักดันวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของอาเซียน 

  • บริการด้านการรักษาความปลอดภัยสุดพิเศษจากอาลีบาบา คลาวด์ ได้แก่ บริการป้องกันการโจมตีแบบ DDoS, WAF, ศูนย์ความปลอดภัย, การตรวจสอบการดำเนินการ, บริการใบรับรอง SSL และการจัดการการเข้าถึงทรัพยากร โดยบริการบางประเภทที่ระบุเบื้องต้นทั้งหมด มีที่ได้ใช้งานจริงตอนจัดมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ของอาลีบาบามาแล้ว



  • บริการด้านการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดนี้ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวแพลตฟอร์ม รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการป้องกันเชิงรุก การตรวจจับภัยคุกคาม การตรวจสอบและการตอบสนอง เช่น การปกป้องซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ให้รอดพ้นจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware), มัลแวร์สำหรับการขุดเหรียญและแบ็คดอร์ (Mining and Backdoor) และโทรจัน (Trojan) 

  • ในแง่ของสถาปัตยกรรม ศูนย์อาลีบาบา คลาวด์ สามารถทำการตรวจสอบประเมินให้กับองค์กรธุรกิจ เพื่อปกป้องเซิร์ฟเวอร์ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ให้เป็นไปตามข้อกำหนดและกฎระเบียบของประเทศไทยได้

  • ผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่สำคัญอื่น ๆ ที่จะได้เปิดตัวพร้อมกับดาต้าเซ็นเตอร์ในไทยนี้ด้วย ได้แก่ ระบบประมวลผลที่ยืดหยุ่น (elastic compute) บริการด้านดาต้าเบส ด้านเน็ตเวิร์ก และ สตอเรจ รวมถึงบริการสำหรับนักพัฒนา การส่งคอนเทนต์ และแอปพลิเคชันระดับองค์กรต่าง ๆ

  • เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการใช้เทคโนโลยีในประเทศและนำความสามารถทางเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาในประเทศไทยผ่านการสนับสนุนของพันธมิตร นับตั้งแต่เปิดตัวโปรแกรม Thailand Partner Alliance 100 เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว อาลีบาบาคลาวด์ มีพันธมิตรมากกว่า 40 รายเข้าร่วมโครงการเพื่อทำธุรกิจและเติบโตไปด้วยกันกับอาลีบาบาคลาวด์ 



ผลิตภัณฑ์ของอาลีบาบาคลาวด์ทั้งหมดได้ผ่านการทดสอบความสามารถของสมรรถนะ โดยบริษัทวิเคราะห์ชั้นนำระดับโลก เช่น ไอดีซี ระบุว่าผลิตภัณฑ์ CDN ของบริษัทฯ เป็นผู้เล่นรายสำคัญ ขณะที่เทคโนโลยีคอนเทนเนอร์ได้รับการจัดอันดับเป็น “ผู้นำ” โดยฟอเรสเตอร์  ส่วนผลิตภัณฑ์ด้านดาต้าเบสของอาลีบาบาคลาวด์ได้รับการจัดอันดับเป็น “ผู้นำ” ในรายงาน Gartner Magic Quadrant และการ์ทเนอร์ ยังรับรองความสามารถด้านคลาวด์ที่สำคัญของบริษัทฯ ทั้งในส่วนของระบบประมวลผล สตอเรจ เน็ตเวิร์ก และระบบรักษาความปลอดภัย ว่าอยู่ในระดับเทียบเท่าผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลก


เพื่อรองรับการพัฒนาที่ยั่งยืน อาลีบาบา คลาวด์ ตั้งเป้าที่จะปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกให้เปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดทั้งหมดภายในปี 2573  และยังได้เข้าร่วมกับกลุ่มความร่วมมือ Low Carbon Patent Pledge เพื่อกระตุ้นการใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้สำเร็จ


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง