รีเซต

ลุ้นวันนี้ ศบค.เคาะลดเคอร์ฟิวเหลือ 5 ทุ่ม-ตี 3 ปรับพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 24 จังหวัด ไฟเขียวจัดอีเวนต์-นิทรรศการ

ลุ้นวันนี้ ศบค.เคาะลดเคอร์ฟิวเหลือ 5 ทุ่ม-ตี 3 ปรับพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 24 จังหวัด ไฟเขียวจัดอีเวนต์-นิทรรศการ
มติชน
14 ตุลาคม 2564 ( 08:05 )
92
ลุ้นวันนี้ ศบค.เคาะลดเคอร์ฟิวเหลือ 5 ทุ่ม-ตี 3 ปรับพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 24 จังหวัด ไฟเขียวจัดอีเวนต์-นิทรรศการ

ลุ้นวันนี้ ศบค.เคาะลดเคอร์ฟิวเหลือ 5 ทุ่ม-ตี 3 ปรับพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 24 จังหวัด ไฟเขียวจัดอีเวนต์-นิทรรศการในห้างและโรงแรมได้ มีผล 16 ต.ค.นี้

 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในวันที่ 14 ตุลาคม เวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 หรือ (ศบค.) จะเป็นประธานการประชุมศบค.ชุดใหญ่ เพื่อประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หลังจากผ่อนคลายและปรับมาตรการกิจการกิจกรรมต่างๆ มาครบ 14 วัน

 

ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 (ศปก.ศบค.)จะเสนอให้ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่พิจารณาผ่อนคลายเพิ่มเติม รวมถึงพิจารณาปรับระดับสีใหม่ให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดหรือสีแดงเข้มเหลือ 24 จังหวัด จากเดิม 29 จังหวัด

 

พร้อมกันนี้จะเสนอให้ที่ประชุมศบค. พิจารณาเกี่ยวกับการเดินทางออกนอกเคหะสถานหรือ เคอร์ฟิว โดยเสนอให้ขยับเวลาจากเดิม 22.00 น.- 04.00น. ของวันรุ่งขึ้น เป็น 23.00น. – 03.00น. ของวันรุ่งขึ้นไปอีก 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 – 31 ตุลาคม ส่วนกิจการกิจกรรมในพื้นที่สีแดงเข้มจะเสนอให้ผ่อนคลายและปรับมาตรการ คือ ให้สามารถจัดการประชุมรวมถึงงานประเพณีในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ และสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมได้ โดยปรับจำนวนการรวมกลุ่มคนตามระดับพื้นที่สี โดยให้พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน พื้นที่ควบคุมสูงสุด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 100 คน พื้นที่ควบคุม ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 200 คน พื้นที่เฝ้าระวังระวังสูง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 300 คน และพื้นที่เฝ้าระวัง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน รวมถึงให้เปิดสถานดูแลผู้สูงอายุแบบไป-กลับได้ แต่ต้องได้รับการพิจารณาอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งกิจการกิจกรรมที่จะปรับมาตรการในครั้งนี้ให้เปิดดำเนินการได้ไม่เกินเวลา 22.00 น.

 

นอกจากนี้จะพิจารณาแนวทางการเปิดประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ 10 ประเทศแบบไม่ต้องกักตัว โดยจะพิจารณาปัจจัยหลัก คือ จำนวนผู้ติดเชื้อของแต่ละประเทศ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอให้ ศบค.พิจารณาสูตรฉีดวัคซีนแบบไขว้ คือฉีดแอสตร้าเซนเนก้าตามด้วย ไฟเซอร์ นอกจากนี้จะมีการเสนอให้ที่ประชุมพิจารณามาตรการแนวทางการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆเพื่อรองรับการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในวันที่ 1 พฤศจิกายน รวมถึงความพร้อมด้านต่างๆก่อนที่จะอนุญาตเปิดสถานบันเทิงให้ดื่มกินได้วันที่ 1 ธันวาคม โดยข้อเสนอต่างๆจะชัดเจนอย่างไรให้รอมติที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่วันที่ 14 ตุลาคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง