รีเซต

BRRเยื่อกระดาษปัง ญี่ปุ่นชูคาร์บอนเครดิต

BRRเยื่อกระดาษปัง ญี่ปุ่นชูคาร์บอนเครดิต
ทันหุ้น
16 กันยายน 2565 ( 06:40 )
114
BRRเยื่อกระดาษปัง ญี่ปุ่นชูคาร์บอนเครดิต

#BRR #ทันหุ้น – BRR เห็นช่องโตชัด รุกหนักภาชนะจากเยื่อชานอ้อย เล็งผลิตเพิ่มอีกเท่าตัว หลังยุโรป-อเมริกาชอบ ชูต้นทุนถูกกว่าแถมได้พรีเมียม เล็งขายโนว์ฮาวให้บริษัทน้ำตาลไทย-บราซิลเพิ่มมูลค่า พร้อมลุยธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวล 6 หมื่นไร่ ที่สปป.ลาว ญี่ปุ่นจีบมองคาร์บอนเครดิต ด้านโบรกชี้อนาคตไกล

 

นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมที่จะขยายธุรกิจโรงงานผลิตภาชนะจากเยื่อชานอ้อย ซึ่งบริษัทได้รับสิทธิบัตรนวัตกรรมในการผลิตเยื่อชานอ้อย นำมาทำเป็นภาชนะทดแทนโฟม จุดนี้มีมูลค่ามหาศาล และต่างประเทศยอมรับ โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วที่มองว่าภาชนะจากเยื่อชานอ้อยเป็นภาชนะที่ทดแทนโฟมและให้พรีเมียม มองว่ามีโอกาสขยายตัวอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันบริษัทมีคำสั่งซื้อผลิตเต็มกำลังการผลิตแล้ว 1 ล้านชิ้นต่อวัน หรือประมาณ 10 ตัน และสามารถทำกำไรแล้ว จากการลงทุนเฟส 1 จำนวน 14 เครื่อง ดังนั้นบริษัทจึงเตรียมที่จะนำเครื่องจักรติดตั้งเพิ่มเติมอีก 14 เครื่อง ซึ่งจะทำให้สามารถขยายกำลังการผลิตได้เป็น 2 ล้านชิ้นต่อวัน และทำให้บริษัทมีมาร์จิ้นจากการผลิตภาชนะจากเยื่อชานอ้อยมากขึ้น เนื่องจากเป็นการลงทุนแค่เพียงเครื่องจักรเท่านั้น แต่โรงงานได้สร้างไปรองรับแล้ว

 

ทั้งนี้โรงงานผลิตภาชนะจากเยื่อชานอ้อยนั้นบริษัทมีต้นทุนแข่งขันได้ เนื่องจากทำมาจากชานอ้อยซึ่งไม่มีต้นทุน โดยนวัตกรรมในการผลิตเยื่อชานอ้อยทำให้บริษัทมีต้นทุนในการผลิตภาชนะแค่เพียง 20,000 บาทต่อตัน ขณะที่คู่แข่งที่ต้องใช้เยื่อกระดาษที่ผลิตจากต้นยูคาลิปตัสจะมีต้นทุนที่สูงกว่าที่ระดับ 4-5 หมื่นบาท ทั้งนี้บริษัทมีเป้าหมายระยะต่อไปที่จะขยายกำลังการผลิตให้ถึง 4 ล้านชิ้นต่อวัน หรือติดตั้งเครื่องจักร 54 เครื่อง ซึ่งจะทำให้ประหยัดต้นทุนมากขึ้น และมีแผนที่จะขายโนว์ฮาวการสร้างเครื่องจักรผลิตเยื่อกระดาษให้โรงงานน้ำตาลอื่นทั้งในไทย รวมไปถึงบราซิลด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยสิทธิบัตรที่ถืออยู่นั้นทำให้มูลค่าของบริษัทที่ผลิตภาชนะจากเยื่อชานอ้อยสูงมาก เนื่องจากแนวโน้มของการลดโลกร้อนจะมาแรงมาก

 

@ลุยเชื้อเพลิงชีวมวลได้คาร์บอนเครดิต

 

นายอนันต์ กล่าวด้วยว่า บริษัทยังได้ถือหุ้นในธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวล (Wood Pellets) ที่ สปป.ลาว ซึ่งมีพื้นที่ในการหาวัตถุดิบกว่า 6 หมื่นไร่ในลาว และจังหวัดสุรินทร์ บวกกับสัญญาซื้อขายเชื้อเพลิงกับคู่ค้ากว่า 15 ปี โดยธุรกิจดังกล่าวนับเป็นโอกาสที่บริษัทจะมีมูลค่าเพิ่มจากการขยายคาร์บอนเครดิต โดยมีกลุ่มญี่ปุ่นติดต่อมาแล้ว และจะมีการขยายธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวลอย่างต่อเนื่อง โดยมีกลุ่มญี่ปุ่นขอร่วมถือหุ้นด้วย และมีการสนับสนุนการปล่อยกู้จากธนาคารญี่ปุ่นที่มีต้นทุนต่ำ

 

"เรื่องคาร์บอนเครดิต ตอนนี้กลุ่มญี่ปุ่นตื่นตัวมาก และมีการให้ราคาสูง ซึ่งจะเป็นผลบวกกับบริษัทมากขึ้นในอนาคต"

 

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากการพูดคุยกับผู้บริหารมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1. แนวโน้มรายได้จากธุรกิจน้ำตาลจะเติบโตโดดเด่นได้แรงหนุนจาก 3 ปัจจัยต่อไปนี้  1. ราคาน้ำตาลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นล่าสุดราคาซื้อขาย Future น้ำตาลอยู่ที่ 608.8 ดอลลาร์ต่อตัน +22.5%YTD 2. เงินบาทที่อ่อนค่ากว่า 10%YTD โดย BRR มีรายได้จากการส่งออกราว 70% ของรายได้รวม 3. ผลผลิตอ้อยและน้ำตาลของผู้ผลิตหลักของโลกอย่างบราซิลที่ลดลงราว 10-16% จากปัญหาภัยแล้งและปรากฏการณ์ลานีญา

 

2. การเข้ามาของกลุ่ม JMART โดยกลุ่ม JMART เริ่มต้นจากการเข้ามาศึกษาธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่เป็นบริษัทลูกของกลุ่ม BRR กว่า 2 ปี โดยบริษัทลูกนี้ ประกอบธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์ อาทิ จาน-ชาม จากชานอ้อยส่งไปขายในโซนยุโรป-สหรัฐ และจำหน่ายเยื่อกระดาษซึ่งเป็นผลพลอยได้จากธุรกิจน้ำตาล  3. โมเดลธุรกิจที่ BRR จะมีการ JV กับกลุ่ม JMART เริ่มต้นด้วย SINGER ผ่านการปล่อยสินเชื่อประเภทต่างๆ การขายประกันและการเปิดสาขาของ SINGER ประมาณ 600 สาขาในบุรีรัมย์ ในส่วนนี้จะมีฐานลูกค้าเริ่มต้นเป็นเกษตรกรไร่อ้อย 2 หมื่นครัวเรือน หรือราว 1 แสนคน สามารถต่อยอดรายได้ของ SINGER และ BRR (BRR จะได้ส่วนแบ่งกำไร)

 

4. ธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวล (Wood Pellets) มีโอกาสเติบโตสูง ล่าสุด BRR ได้พื้นที่ในการหาวัตถุดิบกว่า 6 หมื่นไร่ในสปป.ลาว และจังหวัดสุรินทร์ บวกกับสัญญาซื้อขายเชื้อเพลิงกับคู่ค้ากว่า 15 ปี ในส่วนนี้เราประเมินเป็นบวกต่อปะมาณการรายได้ คาดจะเริ่มรับรายได้ภายในปี 2566

 

มีมุมมองเป็นบวก ธุรกิจใหม่ทั้ง บรรจุภัณฑ์และเชื้อเพลิงชีวมวล จะช่วยปลดล็อกรายได้ต่อปีของ BRR ให้เพิ่มขึ้น (รายได้รวมเฉลี่ยของ BRR ในปี 2013-2021 อยู่ที่ 4.6 พันล้านบาทปี) และนอกจากธุรกิจใหม่ที่จะเป็นรายได้ส่วนเพิ่ม รายได้ในจากธุรกิจหลักของ BRR ขายน้ำตาลและโมลาส มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในปี 2565-2566 จากภาวะการขาดแคลน Supply น้ำตาลในระดับโลก (ผลผลิตโลกลดลง) ส่วนการเข้ามาลงทุนของกลุ่ม JMART เป็นการ Confirm มุมมองของธุรกิจใหม่ของ BRR ที่ดีและกำลังจะเปลี่ยนโครงสร้างรายได้ของ BRR ในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง