EGCOชี้AI-ดาต้าสหรัฐ ใช้ไฟเพิ่มหนุนงบQ3โต

#EGCO #ทันหุ้น - EGCO เผย ไตรมาส 3 ผลดำเนินงานโต เหตุไฮซีซันโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในสปป.ลาว-โรงไฟฟ้าในสหรัฐรับอานิสงส์ ความต้องการใช้ไฟฟ้าของ AI-ดาต้าเซ็นเตอร์ ส่งผลค่าความพร้อมจ่ายพุ่ง รวมถึงรับรู้ส่วนแบ่งกำไรใน CDI มากขึ้น จ่อ COD โรงไฟฟ้าในโครงการ APEX อีก 2 โครงการปลายปีนี้ กำลังผลิตรวม 178 เมกะวัตต์ พร้อมคงงบลงทุนปีนี้ 3 หมื่นล้านบาท
ดร.จิราพร ศิริคํา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จํากัด (มหาชน) หรือ EGCO Group เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลดำเนินงานไตรมาส 3/2568 เติบโตดีกว่า ไตรมาส 2/2568 เนื่องจากเข้าสู่ไฮซีซันของโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาว และโรงไฟฟ้าในสหรัฐ จากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูง จาก AI หรือดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งเห็นได้จากราคาซื้อขายไฟในตลาด PGM มีดีมานด์สูงทำให้ค่าความพร้อมจ่ายสูงขึ้น โดยโครงการในสหรัฐของบริษัท คือโครงการ APEX ซึ่งปัจจุบันเปิดขายไฟชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 8 โครงการ กำลังการผลิต 1,062 เมกะวัตต์
โดยปัจจุบันโครงการ APEX อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกจำนวน 6 โครงการ ซึ่งจะ COD ปลายปีนี้ จำนวน 2 โครงการ Angelo Battery Storage กำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ ช่วงไตรมาส3/2568 และโครงการ Rocky Forge Wind กำลังการผลิต 78 เมกะวัตต์ COD ไตรมาส 4/2568 หลังจากวันที่ 15 สิงหาคม COD โครงการ Wheatsborough Solar กำลังผลิต 125 เมกะวัตต์ ขณะที่ไตรมาส 1/2569 จะ COD 2 โครงการ คือ โครงการ Bowman Wind กำลังการผลิต 200 เมกะวัตต์ และโครงการ Coldwater Solar กำลังผลิต 150 เมกะวัตต์ ส่วนโครงการ Lotus Wind กำลังผลิต 200 เมกะวัตต์ COD ในไตรมาส 2/2569
ส่วนการหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ซึ่งปีนี้บริษัทยังคงเป้าลงทุน 30,000 ล้านบาท ที่จะเพิ่มกำลังการผลิต 1,000 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันสามารถทำได้ในระดับ 20-25% ของเป้าหมาย โดยเน้นโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ โดยมุ่งใน 7 ประเทศ ที่บริษัทมีฐานการลงทุนอยู่แล้ว คือ สหรัฐ เกาหลีใต้ สปป.ลาว ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย ซึ่งโครงการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เฟส 2 ใกล้จะมีความชัดเจนแล้ว หลังจากบริษัทได้รับคัดเลือก 11 โครงการ กำลังการผลิต 448 เมกะวัตต์
“บริษัทคาดผลดำเนินงานไตรมาส 3 ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ไฮซีซันของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในสปป.ลาว และโรงไฟฟ้าในสหรัฐ รวมถึงรับรู้ส่วนแบ่งกำไรโครงการ PT Chandra Daya Investasi (CDI) เพิ่มขึ้น ซึ่งโครงการในฟิลิปปินส์ บริษัทก็จะมีการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลฟิลิปปินส์ ที่จะเปลี่ยนไปใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน”
ดร.จิราพร กล่าวว่า โรงไฟฟ้าเคซอน (QPL) ในฟิลิปปินส์ สัญญา 2 ที่ต่ออายุอีก 15 ปี ซึ่งเช้าวานนี้ (1 ก.ย. 68)ได้มีการเชื่อมต่อระบบเข้ากับการไฟฟ้าที่ฟิลิปปินส์แล้ว จากนี้เหลือแค่ทดสอบอีกเล็กน้อยก็จะ COD ได้ ซึ่งคาดว่าจะมีใกล้เคียงกับโครงการโรงไฟฟ้า SPPL
ส่วนแผนการขายโครงไฟฟ้านั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งเกณฑ์การเลือกขายโรงไฟฟ้า ตามแผนกลยุทธ์ Asset Recycling นั้น มี 3 แนวทาง คือ โรงไฟฟ้าที่ไม่ทำกำไร หรือทำกำไรน้อย โครงการที่ไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัท และเพื่อการหมุนเวียนเงินทุน เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายไปลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการสร้างผลกำไรและให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า จากที่บริษัทมีกลยุทธ์ในในการสร้างรายได้และกำไรอย่างยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอด้านนโยบายการจ่ายเงินปันผลบริษัทยังคงจ่ายอัตรา 40% ของกำไรสุทธิ ซึ่งครึ่งปีแรกบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 3.25 บาทต่อหุ้น โดยเท่ากับช่วงครึ่งปีแรก 2567
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเดินหน้ากลยุทธ์ Triple P ที่เน้นนโยบายการบริหารสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ คือ การขายสินทรัพย์ในระยะเวลาที่เหมาะสม และนําเงินที่ได้จากการขายไปลงทุนใหม่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ในขณะเดียวกันยังมองหาโอกาสลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า และธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
