รวบสถิติราคาน้ำมันปี 63 พร้อมจับตาทิศทางปี 64 ขึ้นอยู่กับโควิดถึงไหน?
ต้องยอมรับว่าช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา สถานการณ์โควิด-19 เป็นเหมือนพายุลูกใหญ่ที่เข้ามากระทบเศรษฐกิจทั่วโลก การออกมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศกระทบอุตสาหกรรมการบินและการขนส่งในประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการใช้น้ำมันทำให้ ความต้องการใช้น้ำมันในปี 2563 ปรับลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมันในบ้านเรา แต่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดทิศทางราคาขายปลีกในประเทศเพราะยังมีปัจจัยเรื่อง ภาษี ต้นทุนขนส่ง อัตราแลกเปลี่ยน นโยบายกองทุนน้ำมันในบ้านเรา เป็นต้น ซึ่งราคาก็ยังสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับราคาน้ำมันในตลาดโลก
ราคาน้ำมันในประเทศมีทั้งพุ่งแรงและลงแรง
ช่วงต้นปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันในบ้านเราถือว่ายังอยู่ในระดับสูง ก่อนที่จะมีวิกฤตโควิด-19 ในภาพรวมราคายังทรงตัวสูง โดยราคาน้ำมันในประเทศปรับขึ้นไปสูงสุด วันที่ 11 มกราคม 2563 โดยราคาดีเซลอยู่ที่ 25.89 บาท/ลิตร เบนซินอยู่ที่ 34.16 บาท/ลิตร
จากนั้นราคาร่วงลงต่ำสุด ช่วงปลาย เดือน 30 เมษายน 2563 ราคาน้ำมันดีเซลลดลงเหลือเพียง 14.39 บาท/ลิตร เบนซิน อยู่ที่ 24.36 บาท/ลิตร ซึ่งถือเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันในบ้านเรา "ถูก" ที่สุดเลยก็ว่าได้ หากนับย้อนกลับไป 20 ปีก่อนหน้านี้ สาเหตุหลักก็มาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากแต่ละพื้นที่มีการล็อกดาวน์ มีนโยบาย Work From Home ในส่วนหน่วยงานราชการและเอกชนบางแห่ง กิจกรรมทางเศรษฐกิจ หรือแม้แต่การขับรถออกไปกินข้าวนอกบ้านก็น้อยมาก ซึ่งราคาน้ำมันก็ได้สะท้อนเหตุการช่วงนั้นได้ชัดเจนที่สุด
ขณะที่ในเดือนถัดมาจากนั้น เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด- 19 เริ่มมีแนวโน้มผ่อนคลายขึ้น จึงส่งผลให้ราคาน้ำมันในประเทศก็ค่อยๆทยอยปรับขึ้น จนมาถึงช่วงปลายปีที่ราคาเริ่มปรับขึ้นมาแรงมากขึ้น
สิ้นปีราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น 7 สัปดาห์ติดต่อกัน
ราคาน้ำมันในช่วงใกล้สิ้นปีพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วโดยปรับตัวขึ้นมา 7 สัปดาห์ติดต่อกันสู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนนับจากต้นเดือนมีนาคมเป็นต้นมา ทำให้ราคาน้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 30% จากระดับ 40 ดอลลาร์/บาเรล มาอยู่ที่ระดับ 50 ดอลลาร์/บาเรล ทำให้เกิดคำถามว่าราคาน้ำมันจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในปีหน้าหรือไม่
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน และประธานเครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้า บอกว่า สาเหตุที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเดือนพ.ย. ถึงเดือน ธ.ค.นั้นได้รับอานิสงส์จากปัจจัยบวกหลายประการ คือ ข่าวความสำเร็จในการพัฒนาและทดลองวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 , นักลงทุนและตลาดตอบรับข่าวดังกล่าว โดยมีมุมมองในเชิงบวกว่าวัคซีนจะสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ ,แผนความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 และกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมถึง ความร่วมมือของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร (OPEC+) ในการตัดสินใจเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือน ม.ค.ปีหน้าเพียง 5 แสนบาร์เรล/วัน แทนที่จะเป็น 2 ล้านบาร์เรล/วันตามข้อตกลงเดิม ตลอดจนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการน้ำมันในเอเชียดีกว่าที่คาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เหตุตะวันออกกลางทำราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น-กระทบตลาดเงิน-ตลาดทุน
ราคาน้ำมันร่วงฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 26.13 จุด
ไทยออยล์ เผย ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปิดติดลบครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนั้นเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันในช่วงปลายปี 2563 ซึ่งต้องดูว่าปัจจัยบวกเหล่านี้จะยังคงส่งผลดีต่อเนื่องมาจนถึงปี 2564 หรือไม่ โดยเฉพาะประสิทธิภาพของวัคซีนในการยับยั้งการระบาดของโควิด-19
ปัจจัยที่จะทำให้ราคาน้ำมันผันผวน
การจับตาดูสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดหรืออาจผ่อนคลายลงบ้างแต่ยังคงต้องใช้อยู่ในช่วง 4 เดือนแรกของปีหน้าแล้ว การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความต้องการน้ำมันที่อาจไม่กลับมาเหมือนเดิมก่อนหน้าการระบาด และการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นของประเทศในกลุ่มโอเปกและพันธมิตรรวมทั้งสหรัฐ อีกทั้งปัจจัยทางการเมืองที่สหรัฐอาจผ่อนคลายการคว่ำบาตรอิหร่าน ทำให้อิหร่านผลิตและส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลกได้มากขึ้น ซึ่งนายมนูญ คาดการณ์ไว้ว่า ราคาน้ำมันในปีหน้าน่าจะผันผวนต่อไป แต่สูงสุดจะไม่เกิน 60 ดอลลาร์/บาเรล
ขณะที่ นักวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันของ กลุ่ม ปตท.ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2564 อยู่ที่ 45-55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จะปรับตัวสูงขึ้นจากปี 2563 เพราะเชื่อว่าจะมีสัญญาณบวกจากความก้าวหน้าการพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทำให้นานาประเทศออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
แน่นอนว่าสถานการณ์เศรษฐกิจบนโลกที่มีผลต่อราคาน้ำมัน ยังคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 หากการแพร่ระบาดยังต่อเนื่อง และไม่สามารถควบคุมได้ ก็จะมีผลกดดันให้ราคาน้ำมนดิบ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันในบ้านเรา ที่ยังต้องอิงทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE