CPALLปันผล0.60บ. ทุ่ม1.2หมื่นล.เพิ่มสาขา
#CPALL #ทันหุ้น – CPALL บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.60 บาทต่อหุ้น หลังแจ้งงบปี 2564 มีกำไรสุทธิ 12,985 ล้านบาท ลดลง 19.4% จากปีก่อน ผลกระทบจากโควิด-19 และค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อธุรกิจโลตัสส์ ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น 7.5% อยู่ที่ 587,597 ล้านบาท ส่วนแผนปี 2565 เตรียมงบลงทุน 11,500-12,000 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่ม คาดยอดขายปีนี้ใกล้เคียงกับการขยายตัวของ GDP
นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 587,597 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.5% ทั้งนี้รายได้จากการขายสินค้าและบริการที่ 565,207 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.5% จากปีก่อนหน้า จากการที่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ด้านสินค้าและบริการ รวมถึงกลยุทธ์ O2O ของแต่ละหน่วยธุรกิจ เพื่อที่สอดรับกับสถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้น รวมถึงความได้เปรียบจากฐานรายได้ที่ต่ำจากปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม รายได้รวมในปี 2564 โดยเฉพาะธุรกิจร้านสะดวกซื้อยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงรวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปสู่วิถีชีวิตใหม่ ในขณะที่มาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงต้นไตรมาส 4/2564 ส่งผลกระทบต่อจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ และจำนวนชั่วโมงในการเปิดให้บริการ ขณะที่ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะธุรกิจแม็คโคร ยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการไว้ได้
*ปันผล 0.60 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ในปี 2564 มีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้อยู่ที่ 12,577 ล้านบาท ลดลง 34.7% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 12,985 ล้านบาท ลดลง 19.4% จากปีก่อน เนื่องจากการดำเนินงานโดยรวมยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ และการบันทึกส่วนแบ่งขาดทุนของบริษัทร่วมตามวิธีส่วนได้เสียจำนวน 226 ล้านบาท (ก่อนการรวมธุรกิจโดยการรับโอนกิจการทั้งหมด)
รวมถึงการมีต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากการเข้าซื้อธุรกิจโลตัสส์ ตั้งแต่ปลายปี 2563 ทั้งนี้ ในช่วงกลางปี บริษัทได้ออกหุ้นกู้สกุลบาทและอัตราดอกเบี้ยคงที่เพื่อจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินก่อนครบกำหนดเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย และลดภาระดอกเบี้ยจ่ายบางส่วน
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายปันผลสำหรับปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 5,389,860,808.80 บาท คิดเป็น 60% ของกำไรสุทธิ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 29 เมษายน 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565
*อัดงบขยายสาขาเพิ่ม
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทวางแผนที่จะพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการ ทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งรวมถึงการขยายเครือข่ายร้านสาขาต่อเนื่องไปตามการขยายตัวของชุมชน โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แหล่งท่องเที่ยวและทำเลที่มีศักยภาพอื่นๆ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปรับเข้าสู่วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) และอำนวยความสะดวกและเข้าถึงความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยบริษัทวางแผนที่จะลงทุนเปิดสาขาใหม่อีกประมาณ 700 สาขา ในปี 2565
ขณะที่ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 11,500-12,000 ล้านบาท ใช้ในการเปิดสาขาใหม่ 3,800-4,000 ล้านบาท, ปรับปรุงสาขาเดิม 2,400-2,500 ล้านบาท,โครงการใหม่, บริษัทย่อยและศูนย์กระจายสินค้า 4,000-4,100 ล้านบาท และลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และระบบสารสนเทศ 1,300-1,400 ล้านบาท
*ยอดขายโตตาม GDP
สำหรับการเติบโตของรายได้ ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่ และการเติบโตของยอดขายเฉลี่ยจากร้านเดิมซึ่งคาดว่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ อาทิ ระดับของอัตราเงินเฟ้อ ราคาวัตถุดิบ ราคาพลังงาน และ การขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศ เป็นต้น
นอกจากนี้บริษัทตั้งเป้าขยายอัตรากำไรขั้นต้นให้ได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยเน้นการพัฒนาระบบในการคัดสรรสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น และผลักดันให้มีสัดส่วนของสินค้าที่กำไรขั้นต้นสูงเพิ่มขึ้น ทั้งจากสินค้ากลุ่ม อาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภค