LINE และ LINE MAN Wongnai ชี้การซื้อ Rabbit LINE Pay เพื่อรวมบริการจ่ายเงินให้แนบแน่นขึ้น
LINE MAN Wongnai และ LINE ประเทศไทยแถลงข่าวพร้อมเปิดให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์กรณีเข้าซื้อกิจการ Rabbit LINE Pay (RLP) จากผู้ถือหุ้นเดิมคือบริษัท Rabbit Pay System (มี BTS เป็นเจ้าของ) และบริษัท Advanced mPAY จำกัด (มี AIS เป็นเจ้าของ) ซึ่งการซื้อหุ้นทั้งหมดในครั้งนี้ทำให้ LINE MAN Wongnai กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ RLP
โดย 2 ผู้บริหารจาก LINE MAN Wongnai คือคุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณชอง อิน ยัง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ LINE MAN Wongnai จะเข้าไปรับตำแหน่งเดียวกันคือ CEO และ CFO ของ RLP ด้วย
คุณยอดได้เปิดเผยว่า การซื้อกิจการครั้งนี้เพื่อเชื่อมบริการของ RLP เข้ากับระบบนิเวศของ LINE มากขึ้น ได้แก่ LINE MAN, LINE SHOPPING, แอป LINE รวมถึงเครือข่ายร้านค้าบนแพลตฟอร์ม Wongnai ซึ่งก่อนหน้านี้วงในก็ซื้อกิจการของ Food Story เพื่อขยายการให้บริการ POS สำหรับร้านอาหาร ทำให้สามารถทำธุรกรรมได้อย่างไร้รอยต่อ โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่จะช่วยเพิ่มนวัตกรรมของ RLP และสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นในการใช้บริการบนแพลตฟอร์ม LINE MAN Wongnai และระบบนิเวศของ LINE
ซึ่งการซื้อกิจการในครั้งนี้ ผู้ใช้งานจะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น สิ่งที่เคยทำได้อย่าง การเชื่อมต่อกับระบบตั๋วรถไฟฟ้า BTS และการชำระค่าบริการ AIS ก็ยังทำได้เหมือนเดิม รวมถึงการใช้จ่ายผ่านบริการของ RLP ก็ทำได้ทุกช่องทางเช่นเดิม รวมถึงพนักงานและสำนักงานของ RLP ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
RLP เป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ช่วย LINE MAN Wongnai โดดเด่น เราต้องการใช้จุดแข็งจากการเชื่อมต่อผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านคนบนแพลตฟอร์ม LINE MAN และ Wongnai รวมถึงร้านค้าอีกกว่า 5 แสนร้านและไรเดอร์อีกมากกว่า 1 แสนคน
ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ด้านคุณชอง อิน ยัง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน LINE MAN Wongnai เผยว่า “ดีลครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ระหว่าง LINE Group หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และ LINE MAN Wongnai หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีระดับยูนิคอร์นของไทย โดยการเข้าซื้อกิจการต่อเนื่องของ LINE MAN Wongnai ตั้งแต่ธุรกิจ POS ก่อนหน้านี้ และ RLP ในครั้งนี้ ทำให้พวกเรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างบริษัทเทคโนโลยีที่คนไทยภาคภูมิใจได้สำเร็จในอนาคตอันใกล้นี้”
LINE จะรุก e-Commence มากขึ้น
ด้าน ดร. พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทยที่เป็นหนี่งในผู้ร่วมซื้อ RLP ในครั้งนี้มองว่า RLP จะเป็นส่วนประกอบให้ไลน์เข้าไปบุก e-Commence ได้มากขึ้น เพราะ RLP มีจุดแข็งในการผสานการชำระเงินแบบออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน และจะทำให้ LINE Shopping ผู้ให้บริการแชตคอมเมิร์ซตอบสนองผู้ใช้ได้ครอบคลุมมากขึ้น และสามารถนำจุดเด่นของแอปอย่างการแชต, LINE POINTS, LINE STICKERS มายกระดับประสบการณ์ให้กับผู้ใช้ได้อีกด้วย
ภาพรวมตลาด Payment ไทย
คุณยอดมองว่าตลาด Payment ไทยมีความแตกต่างจากตลาดโลกอยู่หลายอย่าง โดยเฉพาะบริการ PromptPay ของธนาคาร ที่ให้บริการโอนเงินฟรีมาตลอด นอกจากนี้ยังมีแอปเป๋าตังของรัฐ แม้ว่าตอนนี้ที่เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล อนาคตของแอปเป๋าตังจะยังไม่แน่นอน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้คนไทยเข้าถึงกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้เร็วมาก
เพราะฉะนั้นการแข่งขันของ Rabbit LINE Pay จึงอยู่ในตลาดที่แข่งขันสูง ไทยมีบริการ Payment จากทั้งของรัฐ ของธนาคาร ของบริษัทโทรคมนาคม และของอื่น ๆ แต่เทรนด์การเติบโตของตลาดนี้ก็มีแต่เพิ่มขึ้น ไม่มีลดลง จะเห็นจากคนไทยที่พกเงินสดติดตัวน้อยลงทุกที ซึ่ง RLP ก็ต้องการจะเป็นผู้ให้บริการหลักของไทยให้ได้ โดยการเป็นบริษัทแยกออกมาที่แข็งแกร่ง
แต่ว่าในช่วงที่ผ่าน RLP ก็ยังไม่มีกำไร ซึ่งแน่นอนว่าผู้บริหารก็ต้องมีเป้าหมายที่จะสร้างกำไรให้ได้ เพียงแต่ยังไม่ได้กำหนดเวลาว่าจะทำให้ได้เมื่อไหร่ และยังไม่มีแผนเปิดระดมทุนภายนอก ส่วนต้นทุนการให้บริการของ RLP ก็อยู่ในระดับที่แข่งขันได้
เมื่อนักข่าวถามเรื่องการรีแบรนด์ เพราะ Rabbit เป็นแบรนด์ของทาง BTS แต่ตอนนี้ BTS ไม่ได้หุ้นใหญ่ของ RLP แล้ว คุณยอดก็ตอบเพียงว่า “ตอนนี้ Rabbit LINE Pay ยังไม่มีแผนรีแบรนด์ แต่อนาคตก็ไม่แน่”
เรื่องกระเป๋าเงินดิจิทัล เราบอกอะไรมากไม่ได้ เพราะรัฐบาลเพิ่งตั้ง แต่ก็คาดหวังว่ารัฐบาลจะเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม แล้วถ้ารัฐใช้ infra ที่มีอยู่แล้ว ก็จะช่วยประหยัดเงินให้ประเทศชาติได้ รัฐบาลควรตัดสินใจจากพื้นฐานความสะดวกของประชาชน
ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส