ORIขายแล้ว1.57หมื่นล. คอนเฟิร์มสวนโควิด37%
ทันหุ้น –ORI กวาดยอดขายครึ่งปีแรก 1.57 หมื่นล้านบาท โต 37% หรือคิดเป็น 54% ของเป้าหมายทั้งปี จับตาสถานการณ์ภาพรวมประเทศครึ่งปีหลัง พร้อมเดินหน้าปรับตัวต่อเนื่อง เล็งเปิดใหม่ 5 โครงการ เจาะหลากหลายเซ็กเมนต์ ดันยอดขายสู่ 2.9 หมื่นล้านบาท สร้างสถิติใหม่ All Time High ตามเป้า
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 บริษัทมียอดขายสะสมแล้วกว่า 15,700 ล้านบาท เติบโต 37% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและคิดเป็น 54% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 29,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/2564 บริษัทมียอดขายกว่า 8,000 ล้านบาท เติบโต22% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และยังคงรักษาระดับการเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้าได้
แบ่งเป็นยอดขายจากกลุ่มบ้านจัดสรร 25% และกลุ่มคอนโดมิเนียม 75% หากแบ่งตามสถานะโครงการ มีสัดส่วน ยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) 71% และยอดขายจากกลุ่มโครงการที่เพิ่งเปิดขายหรืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (Ongoing) ราว 29% สำหรับโครงการที่สร้างยอดขายใหม่ช่วง Q2/64 คือแบรนด์ แฮมป์ตัน (Hampton)และ แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) ล่าสุด แฮมป์ตัน ศรีราชา โครงการร่วมทุนกับกลุ่มดุสิตธานีสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 90%
*Q3 เปิด 5 โครงการ
สำหรับสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง ยังอยู่ในช่วงต้องจับตาดูสถานการณ์ภาพรวมของประเทศอย่างใกล้ชิด อาทิ มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดและการเยียวยาภาคส่วนต่างๆ ของภาครัฐ ความเร็วของการกระจายการฉีดวัคซีนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) หากภาครัฐสามารถดำเนินการเรื่องดังกล่าวได้ดี จะช่วยให้เศรษฐกิจภาพรวมและภาคอสังหาริมทรัพย์ได้อานิสงส์ไปด้วย
อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาส 3/2564 ทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่ารวม 4,580 ล้านบาท ได้แก่ บริทาเนีย ติวานนท์-ราชพฤกษ์ และบริทาเนีย ราชพฤกษ์-นครอินทร์ โครงการแฮมป์ตัน ระยอง รวมถึงแบรนด์ใหม่ “ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์” (Origin Plug & Play) คอนโดมิเนียมเจาะกลุ่มสตาร์ทอัพ และแบรนด์ “บริกซ์ตัน” (Brixton) ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างสถิติยอดขาย All Time High ได้ตามเป้า
*มีแบ็กล็อกรอรับรู้ 80%
บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุถึง ORI ว่า แนวโน้มกำไรปกติไตรมาส2/2564 จะทรงตัวจากไตรมาส 1/2564 และจะเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง 2564 โดยทั้งปี 2564 จะกลับมาเติบโตสูง +23% จากปีก่อน ยังประเมินกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 3.2 พันล้านบาท +20% จากปีก่อน ส่วนกำไรปกติจะอยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท +23% จากปีก่อน โดยกำไรปกติไตรมาส 1/2564 คิดเป็น 23% จากทั้งปี สำหรับแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 2/2564 จะยังทรงตัวใกล้เคียงไตรมาส 1/2564 โดยจะมีคอนโดใหม่เริ่มโอน 2 โครงการ แต่จะเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง 2564 เนื่องจากจะมีคอนโดขนาดใหญ่เริ่มโอน ได้แก่ โครงการ Park Origin Phayathai มูลค่าโครงการ 4.6 พันล้านบาท
โดยทำยอดขายได้แล้วไม่ต่ำกว่า 60% เริ่มโอนในงวดไตรมาส 3/2564 ขณะที่ยอดโอนแนวราบจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จากการเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้น ทั้งนี้ ประเมินว่าปัจจุบัน ORI มี Backlog ที่จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2564 แล้วสูงไม่ต่ำกว่า 80%ทำให้มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่ารายได้ในปี 2564 จะเป็นไปตามเป้าหมาย
*เป้าหมาย 13 บาท
อย่างไรก็ตาม ประเมินราคาเป้าหมายที่ 13.00 บาท อิง PER ปี 2564 ที่ 10 เท่า (+0.5SD above 5-yr average PER) โดยมี key catalyst จากกำไรปี 2564 ที่จะกลับมาเติบโตสูง และยังมี Backlog ที่รอรับรู้เป็นรายได้ปี 2564 ที่สูง ทำให้กำไรปีนี้ยังมีโอกาสดีกว่าที่ประเมินได้ ประกอบกับแผนการขยายรายได้ไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็น Recurring มากขึ้น ได้แก่ Healthcare, AMC และ Logistic ซึ่งจะทำให้กำไรในอนาคตมีทิศทางมั่นคงมากขึ้น