"สมศักดิ์" มั่นใจไม่ขอขยายเวลาพิจารณามติแพทยสภาเพิ่ม ปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยถึงกรณีผลสอบแพทยสภาพิจารณาการตักเตือนแพทย์ทั้ง 3 คน ปมชั้น 14 ว่า ตนเองได้รับข้อมูลจากคณะกรรมการแล้ว เสนอความเห็นให้สภานายกพิเศษพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ. วิชาชีพ เวชกรรม พ.ศ. 2525 นั่นหมายความว่าคณะกรรมการดังกล่าวนี้ให้คำแนะนำ ปรึกษาตนเอง ซึ่งคณะกรรมการของแพทย์เป็นกระบวนการพิจารณาจริยธรรม แพทยสภาผ่านคณะกรรมการ 4 ชุด คือ อนุกรรมการจริยธรรม แห่งวิชาชีพเวชกรรมชุดเฉพาะกิจ เป็นชุดเริ่มต้นรับเรื่องราวจากผู้ร้องเรียน เมื่อเข้ามาและมีมติของคณะกรรมการชุดนี้ จึงจะส่งต่อไปยังชุดที่สอง คณะอนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจ ซึ่งมีทั้งหมด 5 คน ส่วนชุดที่สามคือคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ที่จะนำผลไปประชุมในระยะเวลาอันสั้นก่อนส่งเข้าบอร์ดใหญ่คือคณะกรรมการแพทยสภา ซึ่งมีทั้งหมด 70 คน เพื่อพิจารณาโทษ ซึ่งตนเองได้ขอข้อมูลไปยังคณะกรรมการทั้ง 4 ชุดนี้เป็นครั้งที่สองโดยยังไม่ได้คำตอบ เมื่อได้คำตอบมาแล้วจะมีการประชุม ในคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษฯ วันนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีความเห็นอย่างไร เพราะข้อมูลยังไม่ครบ พร้อมกันนี้ นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนเองจะดูข้อมูลในส่วนที่สอดคล้องเพื่อการพิจารณาตามมาตรา 25 และจะฟังคณะกรรมการเสนอความเห็นให้ตนเองเป็นหลัก ว่าสภานายกพิเศษมีอำนาจอย่างไรว่าจะยับยั้งหรือไม่ยับยั้งส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายกพิเศษมีอำนาจในการยับยั้งแล้วจะมีมติของแพทยสภาเพื่ออะไรนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นั่นสิ กฎหมายเขียนไว้ทำไมต้องเปลี่ยนกฎหมายใหม่ เพราะตนเองทำตามกฏหมาย หากไม่ทำตามกฏหมายก็จะมีความผิด หากปล่อยไว้ก็อาจจะถูก ฟ้องร้องได้ หากเห็นว่านายกพิเศษไม่มีประโยชน์ ก็ต้องเปลี่ยนกฎหมาย ยืนยันว่ากรอบระยะเวลา 15 วันจะสามารถดำเนินการได้ทันทีหากมีข้อมูลครบถ้วน ซึ่งจะเริ่มต้นนับตั้งแต่วันที่ตนเองได้รับเอกสาร แล้วตนเองจะพยายามไม่ขอขยายกรอบระยะเวลา
ขณะที่กรณีที่แพทยสภามีหลักฐานว่านายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ป่วยวิกฤตนั้น จะต้องขอเอกสารส่วนนี้เพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาหรือไม่ นายสมศักดิ์ ระบุว่า เรื่องนี้ตนเองมองว่าเขาได้พิจารณากันหมดแล้ว ย้ำว่าเรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะอาจถูกฟ้องมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ และอำนาจหน้าที่ของเรามีเท่าไหร่ก็จะทำเท่านั้น
ส่วนได้ดูคำร้องของของแพทย์โรงพยาบาลตำรวจทั้ง 2 คน แล้ว หรือไม่ นายสมศักดิ์ ระบุว่า ตนเองได้ดูแล้ว จึงได้ขอเอกสารจากแพทยสภาว่าตรงกับสิ่งที่ทั้ง 2 คนได้ร้องขอความเป็นธรรมมาหรือไม่
ทั้งนี้ กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการตั้งคณะกรรมการชุดนี้อาจเข้าข่ายการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นายสมศักดิ์ ระบุว่า ทุกคนต้องถูกตรวจสอบโดยกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการของแพทยสภาทุกชุดเช่นเดียวกัน เราต้องระมัดระวังว่าอะไรควรหรือไม่ควร เพื่อไม่ให้ขัดกับมาตรา 157 ที่มีความเกี่ยวข้องกับทุกคนเพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ