บลจ.กรุงศรีดึงเม็ดเงินThaiESG จัดโปรลงทุนรับหน่วยKFCASH-A
#บลจ.กรุงศรี#ทันหุ้น- บลจ.กรุงศรี จัดโปรหนุนลงทุนยั่งยืน กับกลุ่มกองทุนลดหย่อนภาษี พลาดไม่ได้กับ 2 กองทุน ThaiESGที่ประหยัดภาษีได้มากขึ้น กับการลงทุนในหุ้นไทย ESG อย่างกองทุน KFTHAIESG และตราสารหนี้ ESG อย่างกองทุน KFGBTHAIESG หรือทางเลือกที่มากขึ้นกับ 2 กองทุน RMF กับกองทุน KFNDQRMFและกองทุน KFEMXCNRMFสะสมเม็ดเงินลงทุนตามเงื่อนไขรับหน่วยลงทุน KFCASH-A
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด หรือ บลจ.กรุงศรี แนะนำ 2 กองทุน ThaiESG รับฤดูกาลวางแผนภาษีปลายปี 2567 เปิดรับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืน พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสายลงทุนยั่งยืน กับกองทุนเปิดกรุงศรีเอ็นแฮนซ์เซ็ทไทยเพื่อความยั่งยืน (KFTHAIESG) และกองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรรัฐบาลไทยเพื่อความยั่งยืน (KFGBTHAIESG)
*หนุนลงทุนยั่งยืน ThaiESG
โดยกองทุน KFTHAIESG มีความน่าสนใจที่กระบวนการลงทุนมีการนำปัจจัยด้าน ESG เข้ามาพิจารณาใช้อย่างครอบคลุม โดยเน้นลงทุนในบริษัทที่มีความโดดเด่นด้าน ESG ชั้นนำของประเทศ ซึ่งอ้างอิงตามดัชนี SETESG ขุมทรัพย์แห่งบริษัทชั้นนำด้านความยั่งยืน ที่สะท้อนการเคลื่อนไหวราคาของกลุ่มหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนซึ่งมีผลประเมินหุ้นยั่งยืน (SET ESG Ratings) และมีขนาดและสภาพคล่องผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด
เพื่อสร้างโอกาสในการทำผลตอบแทนที่เหนือกว่าดัชนี ด้วยการกระจายสัดส่วนสำหรับการลงทุนเชิงรุก โดยประมาณ 90%ของพอร์ตการลงทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียน ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SETESG โดยใช้ Quant Strategy เพื่อสะท้อนการลงทุนให้มีผลตอบแทนเปรียบเสมือนการลงทุนทั้ง 100% ในดัชนี SETESG นอกจากนี้ กองทุนยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการลงทุนเชิงรุกตามแนวทางการลงทุนของ บลจ. กรุงศรี ในสัดส่วน 10% ของพอร์ต
สำหรับกองทุน KFGBTHAIESG จุดเด่นกองทุนคือเน้นลงทุนใน ESG Bond ในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากการออก ESG Bond ทั่วโลกที่มีการเติบโตอย่างมากในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในอาเซียน ไทยมีการออก ESG Bond มากเป็นอันดับ 2รองจากสิงคโปร์ โดยเมื่อเทียบกับยุโรป สัดส่วนของ ESG Bond ในไทยจึงยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก (ที่มา: เอกสารการออก ESG Bond ของไทย จัดทำโดย ThaiBMA เผยแพร่ ณ 17 ก.ค. 66)
โดยปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุนในตราสารหนี้ของไทย จากอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี ทำให้ผลตอบแทนจากการถือครองตราสารหนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่น่าดึงดูด อีกทั้งจากมุมมองว่าวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยของไทยในปัจจุบันอยู่ในช่วงสิ้นสุดขาขึ้นแล้ว ทำให้โอกาสปรับตัวลงของราคาตราสารหนี้ที่เกิดจากการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย อยู่ในระดับที่ต่ำ ส่งผลให้ผลตอบแทนโดยรวมมีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับความเสี่ยงจากการลงทุน (ที่มา: บลจ.กรุงศรี ณ 30 ก.ย. 67)
กองทุนเน้นลงตราสารหนี้ภาครัฐไทย ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน โดยมีอายุ หรือ Duration ตราสาร เฉลี่ยประมาณ 9-11 ปี คุณภาพตราสาร และอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับ Investment grade
*โปรลงทุนรับหน่วย KFCASH-A
ทั้งนี้ บลจ.กรุงศรียังจัด โปรโมชั่นพิเศษ รับเพิ่มหน่วยลงทุน KFCASH-A มูลค่า 100 บาท ต่อยอดเงินลงทุนสะสมทุกๆ 50,000 บาท ในกองทุนกลุ่ม SSF/ RMF/ Thai ESG ที่ร่วมรายการตามเงื่อนไข โดยเงื่อนไขโปรโมชั่นลงทุน SSF/ RMF/ ThaiESG ปี 2567 ทุกกองทุน ยกเว้นกองทุน KFCASHSSF และ KFCASHRMF และ SSF/ RMF/ Thai ESG ใหม่ในปี 2567 ที่บริษัทอาจประกาศยกเว้นภายหลัง ต้องมียอดเงินลงทุนสะสมสุทธิในช่วงระหว่างวันที่ 2 มกราคม – 30 ธันวาคม 2567 เท่านั้น
ผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนในช่วงเวลาเสริมการขายจนถึงวันที่ 29มีนาคม 2568 ซึ่งเป็นวันที่บริษัทจะทำการคำนวณยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิ เพื่อรับสิทธิในหน่วยลงทุน KFCASH-A โดยรายละเอียดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ krungsriasset
สำหรับกองทุน ThaiESG เหมาะกับผู้ลงทุนระยะยาว ปี 2567 มีการปรับเงื่อนไขทำให้ กองทุน ThaiESG มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะระยะเวลาการถือครองที่ลดลงเหลือเพียง 5 ปี (วันชนวัน) และวงเงินลดหย่อนที่เพิ่มเป็น 300,000 บาทต่อคนต่อปี (ไม่รวมวงเงินกลุ่มเกษียณ เช่น RMF, SSF,กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันชีวิตแบบบำนาญ เป็นต้น) และกองทุนที่เสนอขายตั้งแต่ปี 2566 ทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.เปิดทางให้ บลจ.สามารถแก้ไขโครงการเป็นการทั่วไป (auto) ได้โดยง่ายเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย และเกณฑ์การลงทุนใหม่ที่ปรับปรุงในปี 2567 นี้ได้
*2 ตัวเลือก RMF ลดหย่อนภาษี
อย่างไรก็ตาม ทางเลือกอื่น ๆ ในกองทุนประหยัดภาษีนั้น บลจ.กรุงศรี แนะนำ กองทุนเปิดกรุงศรีเอ็นดีคิวอินเด็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFNDQRMF) และ กองทุนเปิดกรุงศรีอีเมอร์จิ้งมาร์เก็ต เอ็กซ์ไชน่า อินเด็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFEMXCNRMF) 2 กองทุน RMF จับศักยภาพ พร้อมคว้าโอกาส Nasdaq - Emerging Markets
โดย กองทุน KFNDQRMF ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Invesco NASDAQ 100 ETF มุ่งสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี NASDAQ-100 ซึ่งมีสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นตัวขับเคลื่อนดัชนี เช่น กลุ่ม FAANG และ Magnificent Seven ได้แก่ Alphabet, Amazon, Apple, Meta, Microsoft, Nvidia และ Tesla
และ กองทุน KFEMXCNRMF โอกาสการลงทุนในกลุ่ม Emerging Markets ยกเว้นประเทศจีน มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก iShares MSCI Emerging Markets ex China ETF ซึ่งเป็นหนึ่งใน ETF ชั้นนำของกลุ่ม Emerging Markets มีขนาดกองทุนที่ใหญ่และสภาพคล่องสูงเมื่อเทียบกับ Emerging Markets ETF ในตลาด
สำหรับประเทศในกลุ่ม Emerging Markets มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ ซึ่งการไม่ลงทุนในจีนเนื่องจากขนาดตลาดและเศรษฐกิจของจีนคิดเป็นสัดส่วนสำคัญของตลาด Emerging Markets ดังนั้นการแยกการลงทุนในจีนออกจากกลุ่มจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนจากการลงทุนในหุ้นจีนได้
นอกจากนี้ ตลาด Emerging Markets ยังมีศักยภาพเติบโตจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ทั้งในด้านฐานประชากร,การเติบโตทางเศรษฐกิจและการเป็นฐานการผลิตสำคัญของหลายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ AI และเทคโนโลยี เช่น Semiconductor,Datacenters เป็นต้น