รีเซต

CKPโรงไฟฟ้าเข้าไฮซีซัน จับตาผลงานไตรมาส3พีค

CKPโรงไฟฟ้าเข้าไฮซีซัน จับตาผลงานไตรมาส3พีค
ทันหุ้น
28 มิถุนายน 2565 ( 13:06 )
137

 

#CKP #ทันหุ้น – CKP รับอานิสงส์ฝนตกก่อนฤดูกาล แถมรับรู้ลงทุนโรงไฟฟ้าไซยะบุรีเพิ่มขึ้นหนุนรายได้ไตรมาส 2/2565 จับตาผลงานไตรมาส 3/2565 พีค หลังเข้าสู่ช่วงไฮของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ และไฮของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไตรมาส 4/2565 ด้านโบรกคาดไตรมาส 2/2565 กำไรโต 20.23% และโดดเด่นมากในไตรมาส 3/2565 แนะ “ซื้อ” เป้า 6.50 บาท

 

ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP กล่าวว่า บริษัทคาดการณ์รายได้รวมไตรมาส 2/2565 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2565 ที่ผ่านมา หนุนจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากตามสถานการณ์ในตลาดโลก มีผลทำให้รายได้ในส่วนของโรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่น ปรับตัวสูงขึ้นตาม

 

ขณะเดียวกัน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 – ปัจจุบันปริมาณน้ำที่ไหลผ่านโรงไฟฟ้าน้ำไซยะบุรี (XPCL) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา 20% และปริมาณน้ำที่โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 (NN2) สูงขึ้น 196% หนุนจากปริมาณฝนที่ตกเร็วกว่าฤดูกาล ส่งผลให้จีนเริ่มพร่องน้ำในเขื่อน เตรียมรองรับน้ำในฤดูฝนที่จะมาถึงในช่วงไตรมาส 3/2565 นี้

 

*ครึ่งปีหลังผลงานดี

อย่างไรก็ตามภาพรวมผลการดำเนินงานช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ยังคงได้รับปัจจัยกดดันจากกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ที่น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปี 2564 ประมาณ 22% เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนที่น้อยกว่าปกติ รวมถึงราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลต่อต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ

 

ทั้งนี้คาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 จะเร่งตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องทั้งรายได้ และกำไรขั้นต้น (Margin) หนุนจาก 1.ช่วงไตรมาส 3/2565 เป็นช่วงไฮซีซันของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำทั้ง 2 โครงการใน สปป.ลาว, 2.แนวทางการกำหนดค่า FTภาครัฐบาลให้สอดคล้องกับต้นทุนพลังงานที่เร่งตัวขึ้น  3.ช่วงไตรมาส 4/2565 เป็นช่วงไฮซีซันของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 9 แห่ง

 

สำหรับความคืบหน้าโครงการหลวงพระบาง นั้น ร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA)ระหว่างผู้พัฒนาโครงการกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้การตรวจพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว และทางคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้เห็นชอบ “ในหลักการ” แล้ว ปัจจุบัน กฟผ.อยู่ระหว่างการร่างสัญญา และปรับกำหนดเวลาของแผนงาน (Milestones) ที่เกี่ยวข้องกับกำหนดการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ โดยคณะกรรมการกพช.ได้ให้อำนาจคณะกรรมการกฟผ. เป็นผู้ดำเนินการ เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถลงนามใน “ร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้า” ได้ภายในปี 2565 นี้

 

*คาด Q2 กำไรโต 20.23%

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง CKP ว่า คาดการณ์กำไรไตรมาส 2/2565 ที่ 850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.23% YoY หนุนจากการที่ CKP ถือหุ้นใน XPCL เพิ่มขึ้น 5% เป็น 42.5% คาดจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 606 ล้านบาท ขณะที่ปริมาณขายไฟคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,062 GWh เพิ่มขึ้น 47% YoY และเพิ่มขึ้น 1% QoQ ด้านผลประกอบการของบริษัทย่อย BIC (โรงไฟฟ้าจากก๊าซ) และ BKC (โรงไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์) คาดจะทรงตัว

 

ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3/2565 คาดจะเด่นมากขึ้น และใกล้เคียงกับปีก่อนที่ประมาณ 1,000-1,200 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงฤดูน้ำหลาก เบื้องต้นจึงยังคงประมาณการกำไรทั้งปี 2565 ไว้ที่ 2,300 ล้านบาท เติบโต 7% YoY ส่วนโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง 1,460 เมกะวัตต์ (CKP ถือหุ้น 42%) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจการซื้อขายไฟฟ้า (Tariff MOU) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แล้วเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2565 มีราคาขายไฟเฉลี่ย 2.403 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (KWh) กำหนดผลิตและขายไฟวันที่ 1 มกราคม 2573 ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนกำลังการผลิตของ CKP จะเพิ่มเป็น 3,627 เมกะวัตต์ คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 6.50 บาท

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง