พิพัฒน์ สั่งคุมเข้มดูแลแรงงานไทยในอิสราเอล ขอแจ้งพิกัดพร้อมช่วยเหลือฉุกเฉิน

จากสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ยังคงทวีความรุนแรง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยเป็นพิเศษต่อความปลอดภัยของแรงงานไทยในประเทศอิสราเอล และได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานดูแลใกล้ชิดเต็มที่ โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้รับผิดชอบสั่งการด่วนในสามด้านหลัก

ประการแรก คือ การติดตามความปลอดภัยของแรงงานไทยทั่วประเทศอิสราเอลแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งประสานกับนายจ้างและบริษัทจัดหางานให้จัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัยรองรับแรงงานในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน พร้อมวางแผนอพยพอย่างรัดกุม

ประการต่อมา ได้ขอให้แรงงานไทยทุกคนแจ้ง “ตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบัน” มายังสำนักงานแรงงาน ณ กรุงเทลอาวีฟ หรือผ่านญาติในประเทศไทยติดต่อกรมการจัดหางาน เพื่อให้อัปเดตฐานข้อมูลกลางและเตรียมความพร้อมช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

นายพิพัฒน์กล่าวว่า ได้กำชับให้อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน ณ กรุงเทลอาวีฟ ประสานงานกับนายจ้างทุกแห่งโดยเร่งด่วน ให้มีแผนสำรองเรื่องพื้นที่ปลอดภัย และเน้นย้ำว่าแรงงานไทยต้องพกเอกสารสำคัญไว้ติดตัว หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือการรวมกลุ่มในที่สาธารณะ พร้อมติดตามข่าวสารจากราชการอย่างต่อเนื่อง

อีกด้านหนึ่ง กระทรวงแรงงานได้ประสานบริษัทจัดหางานในประเทศไทยให้ “ชะลอการจัดส่งแรงงานชุดใหม่” ไปยังอิสราเอลชั่วคราว ตามคำแนะนำจากกระทรวงการต่างประเทศ และสถานการณ์ล่าสุดที่อิสราเอลปิดน่านฟ้าชั่วคราว

ด้านนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน ณ กรุงอาบูดาบี ซึ่งดูแลเขตแรงงานในอิหร่าน ก็ได้รับคำสั่งให้เพิ่มการติดตามความปลอดภัยของแรงงานไทยในพื้นที่ด้วยเช่นกัน

ข้อมูลล่าสุดระบุว่ามีแรงงานไทยในอิสราเอลประมาณ 40,000 คน และหากใครต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อหน่วยงานราชการไทยได้ที่ช่องทางต่อไปนี้

 • สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน

โทร. (+98) 912-159-8699

 • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ

โทร. +972 546-368-150

โทร. +972 503-673-195

 • กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน

โทร. 1506 กด 2