CMCรับทรัพย์ธุรกิจใหม่ กอดแบ็กล็อก2.1พันล้าน
ทันหุ้น – CMC ปรับโครงสร้าง ปูทางรับรายได้ประจำธุรกิจใหม่ จากบริษัทลูก กลุ่มโรงแรม การแพทย์และโรงพยาบาล แย้มแผนเจรจาลงทุนโรงแรมที่พักเพิ่ม ด้านธุรกิจอสังหา แบ็กล็อกแน่น 2.1 พันล้านบาท ฟากบอสใหญ่ เตรียมประกาศข่าวดีธุรกิจการแพทย์สัปดาห์หน้า
นพ.วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด หรือ CMC เปิดเผยว่า บริษัทคาดสัดส่วนรายได้ประจำ 1-2 ปีข้างหน้า จะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 5-10% หลังเข้าลงทุนธุรกิจใหม่ ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอ็น.ดี.เอส. 34 จำกัด จำนวน 78,000 หุ้น คิดเป็น 25% โดยซื้อหุ้นจาก บริษัท รำจวน โฮลดิ้ง จำกัด คิดเป็นจำนวนเงิน 171.60 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัท เอ็น.ดี.เอส. 34 จำกัด ประกอบกิจการโรงพยาบาล ซึ่งการลงทุนดังกล่าว เพื่อเป็นการเข้าลงทุนในกิจการโรงพยาบาล ป.แพทย์ 1 และ ป.แพทย์ 2 ของบริษัท เอ็น.ดี.เอส. 34 จำกัด
** ปรับโครงสร้างธุรกิจ
นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจของบริษัท และการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อย จำนวน 2 กลุ่มบริษัทคือ ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาล และดำเนินธุรกิจโรงแรม เพื่อรองรับต่อการขยายธุรกิจในการแบ่งโครงสร้างการดำเนินธุรกิจให้ชัดเจน โดยจัดตั้งบริษัท เทเลด็อค จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจกลุ่มด้านการแพทย์และโรงพยาบาล เพื่อประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชน สถานพยาบาล รับรักษาคนไข้และผู้ป่วยเจ็บ รวมทั้งทำการสั่งเข้ามาซึ่งสินค้าเวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ทุกชนิด โดย CMC ถือหุ้น 99.99%
บริษัท ซีเมดิเทค จำกัด ดำเนินธุรกิจกลุ่มการแพทย์และเวชภัณฑ์สมุนไพร ซึ่งประกอบกิจการผลิตยารักษาโรค เภสัชภัณฑ์ และเคมีภัณฑ์ที่ใช้เป็นยารักษาโรค โดย CMC ถือหุ้น 75% และบริษัท ซีทูเอซ จำกัด ดำเนินธุรกิจกลุ่มบริหารจัดการที่พักให้เช่าระยะสั้น-ยาว ซึ่งจะประกอบกิจการโรงแรม ที่พัก หอพัก สถานที่พักฟื้น และเป็นการขยายธุรกิจจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยสู่ธุรกิจการบริการ (Hospitality) โดย CMC ถือหุ้น 99.99%
**เล็งลงทุนโรงแรมเพิ่ม
อย่างไรก็ดีบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาและศึกษาการเข้าลงทุนธุรกิจโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์หลายราย คาดจะเห็นความเพิ่มเติมได้ต่อจากนี้ ขณะเดียวกันธุรกิจใหม่ที่บริษัทเข้าลงทุนเกี่ยวกับการแพทย์จะเห็นความคืบหน้า และข่าวดีในสัปดาห์หน้า หรือสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน
ขณะที่ทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ช่วงที่เหลือของปี 2564 บริษัทมองว่ายังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 บริษัทมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) รวมมูลค่าประมาณ 2.1 พันล้านบาท มีห้องว่างรอการขาย (Inventory) รวมมูลค่าประมาณ 2.83 พันล้านบาท