รีเซต

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เผยผลตรวจเฝ้าระวังอาหารที่นิยมรับประทานในช่วงเทศกาลกินเจ

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เผยผลตรวจเฝ้าระวังอาหารที่นิยมรับประทานในช่วงเทศกาลกินเจ
TNN ช่อง16
21 ตุลาคม 2568 ( 17:58 )
8

ดร.นพ.สราวุฒิ บุญสุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหารได้มีการตรวจเฝ้าระวังอาหารที่นิยมรับประทานในช่วงเทศกาลกินเจอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี พ.ศ. 2568 โดยแบ่งอาหารเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ อาหารเลียนแบบเนื้อสัตว์ อาหารประเภทถั่วและผลิตภัณฑ์อาหารประเภทผลไม้และผักแปรรูปอาหารประเภทเส้น และผักผลไม้สด

ผลการตรวจวิเคราะห์พบว่าอาหารที่ไม่ได้มาตรฐานมีแนวโน้มลดลง ดังนี้

  • อาหารเลียนแบบเนื้อสัตว์ เช่น เส้นหมี่เจ ปลาราดพริกเจ ปลาหมึกเจ กระเพาะปลาเจ หมูฝอยเจ 

เนื้อแผ่นเจจำนวน 27 ตัวอย่าง โดยเป็นตัวอย่างที่มีฉลาก จำนวน 25 ตัวอย่าง และไม่มีฉลาก 2 ตัวอย่าง

ตรวจไม่พบดีเอ็นเอจำเพาะของเนื้อสัตว์ปะปนทุกตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 100 ซึ่งการแสดงฉลากอาหาร อ้างอิงตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 450) พ.ศ. 2567 เรื่อง การแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ

  • อาหารประเภทถั่วและผลิตภัณฑ์ เช่น ฟองเต้าหู้ ฟองเต้าหู้แห้ง จำนวน 14 ตัวอย่าง ตรวจไม่พบ

กรดซอร์บิก และกรดเบนโซอิกทุกตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 100 พบปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ 8 ตัวอย่าง

คิดเป็นร้อยละ 57 แต่ไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดปริมาณสูงสุดไว้ 300 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

  • อาหารประเภทผลไม้และผักแปรรูป เช่น เห็ดหอม เห็ดหูหนูขาว เห็ดหูหนูดำ ดอกไม้จีน และสาหร่ายจำนวน 114 ตัวอย่างตรวจพบปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์เกินมาตรฐานที่กำหนดให้ปริมาณสูงสุดไว้ 500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมในเห็ดหูหนูขาว 3 ตัวอย่าง และดอกไม้จีน 1 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 4
  • อาหารประเภทเส้น เช่น วุ้นเส้น เส้นหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ และเส้นก๋วยจั๊บ จำนวน 44 ตัวอย่างตรวจพบปริมาณวัตถุกันเสีย ได้แก่ กรดซอร์บิกในเส้นเล็กและเส้นใหญ่ ชนิดละ 1 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 5 

พบกรดเบนโซอิกในเส้นเล็กและเส้นก๋วยจั๊บ ชนิดละ1 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 2 พบซัลเฟอร์ไดออกไซด์

ในวุ้นเส้น จำนวน 2 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 8สำหรับกรดซอร์บิกและกรดเบนโซอิก เป็นวัตถุกันเสียที่ใช้ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์อ้างอิงตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 444 (พ.ศ. 2566)

เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการใช้ และอัตราส่วนของวัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ 3)

  • ผักและผลไม้สด เช่น กวางตุ้ง คะน้า แครอท ผักกาดขาว องุ่น ส้ม แอปเปิ้ล เชอร์รี่ จำนวน 120 ตัวอย่างตรวจพบสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชตกค้าง จำนวน 60 ตัวอย่างคิดเป็นร้อยละ 50 โดยพบเกิน

ค่ามาตรฐานกำหนดจำนวน 32 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 27 อ้างอิงตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 460 (พ.ศ. 2568) เรื่องอาหารที่มีสารพิษตกค้าง และข้อกำหนดของคณะกรรมาธิการของโครงการมาตรฐานอาหาร เอฟ เอ โอ/ดับบลิว เอช โอ (Codex Alimentarius Commission, Joint FAO/WHO Food Standards Programme)

ดร.นพ.สราวุฒิกล่าวต่ออีกว่าขอฝากคำแนะนำสำหรับผู้บริโภคควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เติมธัญพืชต่างๆ ให้หลากหลายวัตถุดิบทดแทนเนื้อสัตว์ที่ทำจากแป้ง และอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ สำหรับ

อาหารเจที่เลียนแบบเนื้อสัตว์ ผู้บริโภคหรือผู้ปรุงอาหารควรเลือกซื้อวัตถุดิบจากร้านที่มั่นใจและอาหาร

ต้องมีฉลากระบุ สถานที่ผลิต วันเดือนปี เลขสารบบอาหารที่ชัดเจนเพราะถ้าแหล่งผลิตไม่ได้มาตรฐานบางครั้งอาจมีส่วนประกอบ เช่น ไข่ นมหรือเนื้อสัตว์ปนเปื้อน ส่วนผักและผลไม้สดควรล้างน้ำให้สะอาดก่อนรับประทาน เพื่อลดสารพิษตกค้างผักใบ เช่น คะน้า กวางตุ้งเปิดน้ำไหลผ่านแล้วค่อยๆคลี่ใบออกหากเป็นกะหล่ำปลีหรือผักกาดขาวให้หั่นหรือฉีกออกมาเป็นใบๆ เพื่อให้น้ำเข้าไปถึงซอกใบ ถูใบผักให้ทั่วแล้วทำซ้ำๆ เพื่อล้างทั้งสารพิษ ดิน และทราย ผักหัว เช่น แครอท หัวไชเท้า เปิดน้ำไหลผ่านและถูหัวผักให้ทั่วอย่างน้อย 

2 นาที หรือถูจนกว่าสิ่งสกปรก เศษดิน เศษทรายจะออกจนหมดและอาหารประเภทเห็ดหูหนูขาว ดอกไม้จีน และอาหารเส้นมาล้างน้ำสะอาดและนำมาลวกหรือต้มในน้ำเดือด2 นาที ก่อนนำไปปรุงอาหารช่วยลดปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ได้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง