รีเซต

นาซาถ่ายภาพ "ดาวเคราะห์ทารก" ในวงแหวนรอบดาวฤกษ์ได้เป็นครั้งแรก จุดเปลี่ยนสำคัญของวงการดาราศาสตร์

นาซาถ่ายภาพ "ดาวเคราะห์ทารก" ในวงแหวนรอบดาวฤกษ์ได้เป็นครั้งแรก จุดเปลี่ยนสำคัญของวงการดาราศาสตร์
TNN ช่อง16
12 พฤศจิกายน 2568 ( 23:00 )
12

ในความก้าวหน้าครั้งประวัติศาสตร์ของวงการดาราศาสตร์ ทีมนักวิจัยนานาชาติสามารถ “ถ่ายภาพโดยตรง” ของดาวเคราะห์ก่อนเกิด หรือ ดาวเคราะห์ทารก (Protoplanet) ที่มีชื่อว่า WISPIT 2b ซึ่งกำลังถือกำเนิดอยู่ภายใน “ช่องว่างรูปวงแหวน” รอบดาวฤกษ์ต้นกำเนิดได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นหลักฐานโดยตรงที่ยืนยันว่า “ดาวเคราะห์สามารถก่อตัวขึ้นภายในช่องว่างของจานฝุ่นรอบดาวฤกษ์” ได้จริง

ภาพของระบบ WISPIT 2 นี้ถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์แมกเจลแลนในชิลีและกล้องโทรทรรศน์กล้องสองตาขนาดใหญ่ในแอริโซนา ดาวเคราะห์ทารก WISPIT 2b เป็นจุดสีม่วงเล็ก ๆ ทางขวาของวงแหวนฝุ่นสีขาวสว่างที่ล้อมรอบดาวฤกษ์ของระบบ สามารถมองเห็นวงแหวนสีขาวจาง ๆ ด้านนอกของ WISPIT 2b ที่มาของรูปภาพ Laird Close, University of Arizona

ดาวเคราะห์ทารก WISPIT 2b คืออะไร

ดาวเคราะห์ WISPIT 2b เป็นหนึ่งในวัตถุท้องฟ้าที่น่าตื่นตาที่สุดในยุคนี้ เพราะมันอยู่ในช่วงกำลังก่อตัว หรือที่นักดาราศาสตร์เรียกว่า Protoplanet หมายถึง ดาวเคราะห์ที่ยังอยู่ระหว่างการสะสมก๊าซและฝุ่นจากจานรอบดาวฤกษ์ต้นกำเนิด เพื่อเติบโตจนกลายเป็นดาวเคราะห์สมบูรณ์ในอนาคต 

ดาวเคราะห์ดวงนี้มีขนาดใหญ่โตมหาศาล โดยมีมวลมากกว่าดาวพฤหัสบดีราว 5 เท่า ทำให้มันจัดอยู่ในกลุ่มของ “ดาวยักษ์ก๊าซ” ที่มีองค์ประกอบหลักเป็นไฮโดรเจนและฮีเลียม

แม้จะมีมวลมาก แต่ WISPIT 2b ยังถือเป็นดาวเคราะห์อายุน้อยมาก โดยมีอายุเพียงประมาณ 5 ล้านปี เท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับโลกที่มีอายุกว่า 4,500 ล้านปี ถือว่ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเกิดขึ้นอย่างแท้จริง การศึกษาดาวเคราะห์อายุน้อยเช่นนี้ช่วยให้นักดาราศาสตร์เข้าใจขั้นตอนและกลไกของการกำเนิดดาวเคราะห์ได้ดียิ่งขึ้น

ดาวเคราะห์ WISPIT 2b โคจรรอบดาวฤกษ์อายุน้อยที่มีชื่อว่า WISPIT 2 ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 437 ปีแสง ดาวฤกษ์ดวงนี้ยังอยู่ในระยะวัยหนุ่มสาวของวงจรชีวิตทางดาราศาสตร์ และมีจานฝุ่นและก๊าซขนาดใหญ่ล้อมรอบ ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญที่ทำให้ดาวเคราะห์ทารกอย่าง WISPIT 2b กำลังถือกำเนิดขึ้นภายในระบบนั้นเอง

ทำไมการค้นพบนี้จึงสำคัญ

นักดาราศาสตร์เคยเชื่อว่า “ช่องว่าง” หรือ “ร่องวงแหวน” ที่ปรากฏในจานฝุ่นรอบดาวฤกษ์อายุน้อย เกิดจากแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์ที่กำลังก่อตัวซึ่งค่อย ๆ กวาดฝุ่นออกจากเส้นทางของมัน แต่ที่ผ่านมายังไม่มีใครเคยเห็นดาวเคราะห์ในตำแหน่งเหล่านั้นโดยตรงเลย จนกระทั่งพบ WISPIT 2b

หลักฐานสำคัญจาก WISPIT 2b

หนึ่งในสิ่งที่ทำให้การค้นพบดาวเคราะห์ WISPIT 2b มีความสำคัญอย่างยิ่ง คือ การที่นักดาราศาสตร์สามารถยืนยันได้ว่า ดาวเคราะห์ดวงนี้ตั้งอยู่ภายในช่องว่างของจานฝุ่นและก๊าซรอบดาวฤกษ์ต้นกำเนิด หรือที่เรียกว่า Protoplanetary disk ได้อย่างชัดเจน 

การสังเกตการณ์ครั้งนี้ถือเป็นหลักฐานโดยตรงครั้งแรกที่ยืนยันแนวคิดซึ่งนักวิทยาศาสตร์เคยเสนอไว้ก่อนหน้า ว่าช่องว่างหรือร่องในจานฝุ่นรอบดาวฤกษ์ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดจากแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์ที่กำลังก่อตัว ซึ่งค่อย ๆ กวาดฝุ่นและก๊าซออกจากเส้นทางโคจรของมันเองจนเกิดเป็นช่องว่างขึ้นมา

ภาพถ่ายความละเอียดสูงจากกล้องโทรทรรศน์เผยให้เห็นว่า WISPIT 2b ไม่ได้เป็นดาวเคราะห์ที่เคลื่อนย้ายมาจากบริเวณอื่นของระบบ แต่ก่อตัวขึ้นตรงตำแหน่งที่ค้นพบนั่นเอง การยืนยันเช่นนี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้กับนักดาราศาสตร์ว่า ดาวเคราะห์ขนาดยักษ์อย่าง ดาวพฤหัสบดี และ ดาวเสาร์ ในระบบสุริยะของเรา อาจเคยมีพฤติกรรมแบบเดียวกันเมื่อหลายพันล้านปีก่อน 

โดยพวกมันอาจเป็นต้นเหตุที่สร้างช่องว่างในจานกำเนิดดาวเคราะห์ของระบบสุริยะยุคแรก ทำให้การศึกษาดาวเคราะห์ WISPIT 2b ครั้งนี้เปรียบเสมือนการย้อนเวลาไปดู “ภาพตอนที่โลกและเพื่อนบ้านในระบบสุริยะเริ่มต้นถือกำเนิดขึ้น”

วิธีการถ่ายภาพเทคโนโลยีล้ำสมัยจากโลกสู่จักรวาล

การตรวจจับดาวเคราะห์ WISPIT 2b อาศัยเครื่องมือขั้นสูงหลายชุดจากทั่วโลก

1. VLT-SPHERE กล้องโทรทรรศน์ยักษ์ในชิลี ตรวจพบวงแหวนและช่องว่างรอบดาวฤกษ์ WISPIT 2 เป็นครั้งแรก

2. MagAO-X System ระบบเลนส์ปรับตัวขั้นสูงที่ติดตั้งกับกล้องโทรทรรศน์ Magellan ใช้สำหรับ “ถ่ายภาพโดยตรง” ดาวเคราะห์ที่มีคอนทราสต์สูง

3. การสังเกตในแสง H-alpha: ทีมวิจัยศึกษาการแผ่รังสีจากก๊าซไฮโดรเจนที่ตกลงสู่พื้นผิวดาวเคราะห์ ซึ่งเป็นสัญญาณเฉพาะของดาวเคราะห์ที่กำลังเติบโต

4. กล้อง LMIRcam บน Large Binocular Telescope (LBT) ในรัฐแอริโซนา ใช้เก็บข้อมูลเสริมในย่านแสงอินฟราเรด เพื่อยืนยันตำแหน่งและคุณสมบัติของวัตถุ

ผลลัพธ์คือภาพถ่ายที่ถือเป็น “หลักฐานโดยตรง” ของดาวเคราะห์ที่กำลังก่อตัวอยู่ภายในจานฝุ่นรอบดาวฤกษ์ สิ่งที่มนุษยชาติรอคอยมานานหลายทศวรรษ

ทีมผู้นำการค้นพบ

โครงการนี้นำโดย ศาสตราจารย์เลียร์ด โคลส์ (Laird Close) จากมหาวิทยาลัยแอริโซนา และ ริเชล ฟาน คาเปลเลวีน (Richelle van Capelleveen) นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาจากหอดูดาวไลเดน ประเทศเนเธอร์แลนด์ 

โดยเธอเป็นผู้ที่เคยค้นพบระบบจานและวงแหวนของ WISPIT 2 มาก่อนด้วยกล้อง VLT ซึ่งปูทางให้กับการถ่ายภาพดาวเคราะห์ทารกในครั้งนี้

งานวิจัยฉบับสมบูรณ์ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Astrophysical Journal Letters วันที่ 26 สิงหาคม 2025 ภายใต้ชื่อบทความว่า

“Wide Separation Planets in Time (WISPIT): Discovery of a Gap Hα Protoplanet WISPIT 2b with MagAO-X”

นอกจาก WISPIT 2b แล้ว ทีมวิจัยยังพบจุดสว่างอีกจุดหนึ่งภายในวงแหวนด้านในของระบบ ซึ่งอาจเป็นดาวเคราะห์อีกดวงที่อยู่ระหว่างการก่อตัวเช่นกัน หากยืนยันได้ในอนาคต มันจะทำให้ระบบ WISPIT 2 กลายเป็นหนึ่งใน “ห้องทดลองธรรมชาติ” ที่ดีที่สุดในการศึกษากำเนิดดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ

โครงการได้รับการสนับสนุนจาก NASA

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก NASA eXoplanet Research Program เพื่อขับเคลื่อนการวิจัยและเข้าใจขั้นตอนการก่อกำเนิดของดาวเคราะห์ในจักรวาล

การค้นพบนี้เผยแพร่โดยหน่วยงานวิทยาศาสตร์ของ NASA ซึ่งมีพันธกิจในการสำรวจสิ่งที่ยังไม่รู้ในจักรวาลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับมนุษยชาติ อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานระบุว่าการอัปเดตเว็บไซต์ทางการของ NASA อาจล่าช้าเนื่องจาก “การขาดงบประมาณจากรัฐบาลกลาง” (Lapse in federal funding)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง