2 หุ้นเด่นกลุ่มอาหาร
บทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ 2 หุ้นเด่นกลุ่มอาหารน่าลงทุน คือ CPF ซึ่งอยู่ในช่วงของการเติบโตที่ดี ส่วน TU ก็มีความน่าสนใจในเรื่องการฟื้นตัว และทั้งคู่อยู่ในช่วงการจะประกาศงบการเงินไตรมาส 2/63
CPF คงคำแนะนำซื้อ ด้วยราคาพื้นฐานที่ 41.00 บาท คาดว่าผลการดำเนินงาน ไตรมาส 2/63 จะออกมาน่าประทับใจ 5.6 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 38%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะอัตรากำไรที่ยังทำได้สูงขึ้น แต่กำไรปรับลงบ้างเมื่อเทียบต่อไตรมาส เพราะผลกระทบจากการล็อกดาวน์ แต่คาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษจากมูลค่ายุติธรรมในสินทรัยพ์ Biological เพิ่มขึ้น 850 ล้านบาท หลังราคาขายเนื้อหมูประเทศเวียดนามเพิ่มขึ้น
แม้ด้านความต้องการสินค้าได้ชะลอตัวลงบ้างในช่วงล็อกดาวน์ แต่กลับมาฟื้นตัวดีหลังจากมีการคลายล็อกดาวน์ ส่วนราคาเนื้อหมูและไก่ในประเทศปรับลงบ้างในช่วงที่มีล็อกดาวน์ แต่ก็อยู่ในภาวะที่มีกำไร
ปัจจัยบวกสำคัญคือ ราคาขายเนื้อหมูที่สูงในประเทศเวียดนาม ยังเป็นแรงสนับสนุนการเติบโตในระยะกลางได้เป็นอย่างดี
ส่วน TU ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 16.00 บาท คาดว่าในงวดไตรมาส 2/63 อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ทำได้แข็งแกร่งเป็น 17.5% (สูงสุดในรอบ 10 ปี) เป็นตัวดึงสำคัญ ทำให้กำไรจากการดำเนินงาน ยังสามารถเพิ่มขึ้นได้ กลุ่มสินค้าที่ผลักดันคือ ทูน่า ซึ่งปกติให้อัตรากำไรที่สูง และขายดีในช่วงล็อกดาวน์ จึงมีสัดส่วนในยอดขายที่มาก
ในขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทร่วม Red Lobster ยังออกมาน่าผิดหวัง เพราะในช่วงล็อกดาวน์ได้มีการปิดร้านสาขาต่างๆทั่วประเทศ จึงคาดว่าจะส่งผลขาดทุนตามส่วนได้เสียมาก 650 ล้านบาท
คาดว่ากำไรหลักช่วงไตรมาส2/63 เป็น 1.33 พันล้านบาท ลดลง15%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 3.2%เมื่อเทียบต่อไตรมาส เพราะถูกดึงด้วย Red Lobster แต่พิจารณาเฉพาะกำไรดำเนินงานยังโตได้เพราะสินค้าทูน่า แต่กำไรสุทธิยิ่งผันผวน คาดว่าเป็น 1.24 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,011.5%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และ +3.2%เมื่อเทียบต่อไตรมาส เพราะฐานปีก่อนมีตั้งสำรองค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกฎหมายจำนวนมากที่สหรัฐ ส่วนไตรมาสนี้มีบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษราว 86 ล้านบาท จากอุบัติเหตุไฟไหม้ที่แคนาดา และค่าชดเชยให้พนักงานโรงงานอาหารทะเลที่ประเทศไทย 1 โรงงาน
คาดว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้ จะได้เห็นการกลับมาฟื้นตัวของอาหารทะเลแช่แข็งและ Red Lobster ช่วยเสริมภาพรวมของธุรกิจ แม้ธุรกิจทูน่ากลับสู่ภาวะปกติ หลังคลายล็อกดาวน์แล้วก็ตาม
ทั้งนี้ ความกังวลผลการดำเนินงานปี 63 ได้สะท้อนไปยังราคาหุ้นแล้ว แต่ในปี 64 จะมีการฟื้นตัวสูง คาดการณ์ว่ากำไรหลักปีนี้ลดลง 22%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และปี 64 เพิ่มถึง 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน