แฉเจ้าหน้าที่รัฐ รับเงินนายทุน ขอหัวละ 3 หมื่น พาแรงงานพม่าหนีเข้าไทย
ประจวบคีรีขันธ์ - วันที่ 9 ต.ค. นายคณะพจน์ สายสกล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านเนินแก้ว ต.อ่าวน้อย อ.เมือง กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่นำวัวไปเลี้ยงบริเวณป่าใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา ว่าพบกลุ่มบุคคลคาดว่าเป็นชาวเมียนมาหลายราย หลบซ่อนตัวภายในป่าใกล้ช่องทางธรรมชาติ ช่องหนองกูด-ศาลเจ้า
จึงสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) พร้อมประสานผู่ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยใกล้เคียงร่วมกันออกค้นหากลุ่มบุคคลดังกล่าว เพื่อป้องกันปัญหาจากสถานการณ์การระบาดขอโรคโควิด 19 ในประเทศเมียนมา
อย่างไรก็ตาม หลังออกติดตามยังไม่พบกลุ่มบุคคลดังกล่าว มีเพียงรองเท้าและขวดน้ำทิ้งไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นคาดว่าทั้งหมดอาจจะเดินข้ามแดนกลับไปฝั่งเมียนมา หรือมีนายหน้าคนไทยแก๊งค้าแรงงานเถื่อนเข้าไปรับตัวออกจากพื้นที่ เนื่องจากสังเกตจากขวดน้ำดื่มเหมือนมีคนไทยส่งเสบียงและทราบว่ามีแรงงานชาวเมียนมาที่รับจ้างกรีดยางตามชายแดนช่วยเหลือให้ที่พักพิง
นายชนพหล ส่งเสริม นายอำเภอเมือง กล่าวว่า ผู้ว่าฯประจวบ ได้สั่งการให้ค้นหาตัวบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ และสั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นำเจ้าหน้าที่ ชรบ. เจ้าหน้าที่ อสม.ตั้งจุดตรวจคัดกรองโควิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติ อาจนำเชื้อโควิด 19 เข้ามาระบาดในพื้นที่ชั้นในของจังหวัด
ด้านแหล่งข่าวจากฝ่ายปกครองท้องที่รายหนึ่ง ระบุว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยตั้งด่าน เพื่อเฝ้าระวังการลักลอบหนีเข้าเมืองตามแนวตะเข็บชายแดน แต่ทราบว่ายังมีเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงานแอบลักลอบนำคนต่างด้าวเถื่อนหลบหนีเข้าเมืองตามปกติ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย เนื่องจากนายทุนต้องการแรงงานเถื่อนจำนวนมาก ทำให้ค่าจ้างในการนำแรงงานเถื่อนเข่้าประเทศจากเดิมหัวละ 8,000 บาท พุ่งสูงถึง 2-3 หมื่นบาท