รีเซต

ศัลยแพทย์หัวใจและผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว เผยงานวิจัยอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์ "โอมิครอน" ในสหรัฐฯ ต่ำกว่า "เดลตา" ถึง 9 เท่า

ศัลยแพทย์หัวใจและผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว เผยงานวิจัยอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์ "โอมิครอน" ในสหรัฐฯ ต่ำกว่า "เดลตา" ถึง 9 เท่า
TNN Health
13 มกราคม 2565 ( 17:34 )
89
ศัลยแพทย์หัวใจและผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว เผยงานวิจัยอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์ "โอมิครอน" ในสหรัฐฯ ต่ำกว่า "เดลตา" ถึง 9 เท่า
วันที่ (13 ม.ค.65) นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ศัลยแพทย์หัวใจและผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว ได้เผยบทบาทเกี่ยวกับไวรัสโควิดสายพันธุ์ "โอมิครอน" ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ความกลัวโอมิครอนทั่วโลก ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่มีการแพร่ข่าวเรื่องความรุนแรงของโรคนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกาในประเด็นต่างๆเช่น
 
 
การที่ยอดผู้ป่วยถูกแอดมิทไว้รักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น การตายเพิ่มขึ้น เด็กป่วยมากกว่าผู้ใหญ่และตายมากกว่าผู้ใหญ่ เป็นต้น ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่ข่าว
 
 
ไม่ใช่หลักฐานวิทยาศาสตร์ แต่ตอนนี้หลักฐานวิทยาศาสตร์ของจริงออกมาแล้ว เป็นงานวิจัยที่แคลิฟอร์เนียซึ่งสปอนเซอร์โดยศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ (CDC)
 
 
มีศูนย์ประสานงานการวิจัยอยู่ที่ยูซี.เบอร์คเลย์ ซึ่งผมขอสรุปผลให้ฟังดังนี้
งานวิจัยนี้ทำกับผู้ป่วยติดเชื้อโอมิครอนที่ยืนยืนการตรวจด้วยเทคนิค SGTF (S gene target failure) ทำเฉพาะกับผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลจำนวนรวม 52,297 คน พบผลดังนี้
 
 
ผู้ป่วยทั้งหมด รวม 52,297 คน หากนับเฉพาะคนที่ติดตามได้อย่างน้อย 5.5 วัน รวมทั้งหมด 288,534 คนวัน พบว่า
 
 
ผู้ป่วยถูกรับไว้ในโรงพยาบาล 88 คน (0.48%)
ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 0 คน (0%)
ท้ายที่สุดแล้วมีตาย 1 คน (0.09%)
 
 
โดยที่การติดเชื้อและระดับความรุนแรงมีการกระจายตัวเท่าๆกันทุกกลุ่มอายุ ไม่เป็นความจริงที่ว่าเด็กป่วยมากกว่าและจะตายมากกว่า
 
 
ขณะเดียวกันงานวิจัยนี้ยังได้เปรียบเทียบกับการติดเชื้อเดลตาซึ่งมาที่กลุ่มโรงพยาบาลเดียวกันในช่วงเวลาเดียวกันจำนวน 16,982 คน พบว่า
 
 
ผู้ป่วยทั้งหมด รวม 16,982 คน
ถูกแอดมิทเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 222 คน (1.3%)
ใส่เครื่องช่วยหายใจ 11 คน (0.06%)
ท้ายที่สุดแล้วตาย 14 คน (0.8%)
 
 
โปรดสังเกตว่าอัตราตายของโอมิครอนคือ 0.09% นั้นต่ำกว่าอัตราตายของเดลต้าซึ่งตาย 0.8% ต่างกันถึง 9 เท่า
 
 
ผมเล่าเรื่องงานวิจัยนี้เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการวางแผนจัดการโรคของทุกท่านที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแฟนบล็อกทุกคนที่มีหน้าที่ต้องจัดการสุขภาพของตนเองด้วย
 
 
เพื่อที่เราจะได้ไม่ทำอะไรที่มากเกินไป หรือที่เสี่ยงเกินไป หรือที่แพงเกินไป เพื่อปกป้องตัวเราให้จากพ้นโรคที่มีอัตราตายต่ำกว่า 0.1% หรือพูดง่ายๆว่าใกล้ศูนย์
 
 
โดยยอมทิ้งความใส่ใจในโรคเจ้าประจำอื่นๆที่มีอัตราตายสูงกว่า เช่นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันมีอัตราตาย 30% โรคไข้หวัดใหญ่มีอัตราตาย 0.13-0.17% เป็นต้น

ติดตาม TNN Health ได้ที่นี่ FB https://www.facebook.com/TNNHealth

 

ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.

คลิกเลย >>> TrueID Community <<<

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง