ประสบการณ์-วิสัยทัศน์ "ทักษิณ" กับบทบาทใหม่ขับเคลื่อนอนาคตอาเซียน
ทักษิณ พลิกบทบาทสู่เวทีอาเซียน: ประสบการณ์และวิสัยทัศน์ที่น่าจับตา
"Thank you for agreeing to this because we need the benefit of the experience of such a statesman," Anwar said of Thaksin during a joint press conference with Paetongtarn.
"ขอบคุณที่ตอบตกลงรับตำแหน่งนี้ เพราะเราต้องการได้รับประโยชน์จากประสบการณ์ของรัฐบุรุษเช่นท่าน" คำกล่าวของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ "ทักษิณ ชินวัตร" ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนตัวในวาระที่มาเลเซียจะเป็นประธานอาเซียนปี 2568
การกลับมาครั้งนี้ของทักษิณถือเป็น "โอกาสทอง" ที่จะได้นำประสบการณ์อันยาวนานในฐานะอดีตผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจมาช่วยขับเคลื่อนอาเซียน โดยเฉพาะในยุคที่ภูมิภาคต้องการความร่วมมือและการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
จุดแข็งสำคัญของทักษิณคือ "เครือข่ายความสัมพันธ์" อันแน่นแฟ้นกับผู้นำในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นอดีตผู้นำกัมพูชา ฮุน เซน หรือประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ปราโบโว ซูเบียนโต ความสัมพันธ์เหล่านี้อาจเป็นกุญแจสำคัญในการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก
ที่น่าสนใจไม่น้อยคือบทบาทของทักษิณในการมีส่วนร่วมแก้ไขวิกฤตการณ์ในเมียนมา รายงานระบุว่าเขาได้พบปะหารือกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐบาลทหารเมียนมาเพื่อแสวงหาแนวทางสันติภาพ สะท้อนถึงความพยายามในการใช้ "การทูตแนวใหม่" เพื่อคลี่คลายปัญหาที่ซับซ้อน
การที่มาเลเซียเลือกทักษิณเป็นที่ปรึกษา ยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-มาเลเซีย ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2027 ประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจของทักษิณจึงอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เป้าหมายนี้เป็นจริง
นับจากนี้ไป เราคงได้เห็นบทบาทใหม่ของทักษิณในฐานะ "ผู้ประสานงานระดับภูมิภาค" ที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอาเซียน ด้วยประสบการณ์ วิสัยทัศน์ และเครือข่ายความสัมพันธ์อันกว้างขวาง ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือในมิติใหม่ๆ ที่น่าจับตามอง
ภาพ Freepik