โควิด-19 : ท่ามกลางในวิกฤตไวรัสโควิด-19 เกาหลีใต้จัดการเลือกตั้งอย่างไร
เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา เกาหลีใต้จัดการเลือกตั้งหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 2019 หรือ โรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย โดยประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัย ถุงมือพลาสติก และรักษาระยะห่างจากกันอย่างน้อยหนึ่งเมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่จะมอบบัตรเลือกตั้ง แล้วจึงได้รับอนุญาตให้เดินเข้าคูหาเพื่อใช้สิทธิของตัวเอง
การปฏิบัติเบื้องต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของมาตรการจากภาครัฐเพื่อให้การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาแห่งชาติ หรือ สภาผู้แทนราษฎร ในครั้งนี้ยังสามารถดำเนินต่อไปตามกำหนดการเดิม แม้ต้องเผชิญกับวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ก็ตาม
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการขับเคี่ยวระหว่างพรรครัฐบาล คือ พรรคประชาธิปไตย กับพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งมีแนวความคิดแบบอนุรักษ์นิยมอย่าง พรรค United Future เพื่อชิงเก้าอี้สมาชิกรัฐสภาแห่งชาติจำนวน 300 ที่นั่ง และนี่จะเป็นบททดสอบว่าใครจะสามารถทำคะแนนความนิยมได้มากกว่ากัน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปในปี 2022
- ทรัมป์ถูกนานาชาติวิจารณ์ หลังประกาศงดให้เงินอุดหนุนองค์การอนามัยโลก
- พบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 6 ชนิดในค้างคาวเมียนมา
- ที่มา อาการ การรักษา และการป้องกันโรคโควิด-19
ประเด็นสำคัญที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันของประชาชนในระหว่างการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ ความสามารถของรัฐบาลต่อการรับมือกับวิกฤตโควิด-12 ที่กำลังระบาดอย่างหนัก ในขณะเดียวกับรัฐบาลก็ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ ผนวกกับเหตุอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตของบรรดาผู้ช่วยของประธานาธิบดีอีกด้วย
ภายหลังปิดหีบเลือกตั้งเมื่อวานนี้ (15 เม.ย.) ผลสำรวจหน้าคูหาเลือกตั้ง หรือ Exit Poll ของสถานีโทรทัศน์หลัก 3 รายรายงานตรงกันว่า พรรคประชาธิปไตยของประธานาธิบดีมุน แจ อิน ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา และที่สำคัญคือ พรรคของเขายังได้จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การประกาศผลคะแนนการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการคาดว่าจะใช้เวลาอีกสักระยะ แต่มีรายงานว่า นายแท ยองโฮ ผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือและเคยเป็นทูตเกาหลีเหนือประจำสหราชอาณาจักร อาจจะเป็นผู้คว้าชัยชนะด้วยการเป็น ส.ส. ในเขตกังนัม ซึ่งถือเป็นย่านธุรกิจสำคัญในกรุงโซล และกลายเป็น ส.ส. คนแรกที่แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือ
"สิทธิในการโหวต"
แม้ว่าบางคนจะกังวลว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ดำเนินไปด้วยความวุ่นวาย แต่ผู้สื่อข่าวบีบีซีพบว่า สถานการณ์สงบเรียบร้อยดี โดยประชาชนยืนเข้าแถวกันอย่างอดทน ตามจุดที่กำหนดไว้
"ฉันคิดว่าบางทีน่าจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อนค่ะ เพราะคนน่าจะมากันน้อย" วัยรุ่นหญิงคนหนึ่งให้ความเห็น "แต่พอได้เห็นคนมากันเยอะแยะแบบนี้ ฉันก็สบายใจแล้วค่ะ"
ความกังวลว่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาไม่ทำให้ประชาชนชาวเกาหลีละทิ้งสิทธิเลือกตั้งของตัวเองไป ตรงกันข้าม สถิติการออกมาเลือกตั้งในครั้งนี้กลับสูงถึง 66% สูงที่สุดในรอบ 16 ปี
นอกจากผู้คนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเมื่อวานนี้แล้ว มีชาวเกาหลีใต้ส่วนหนึ่งราว 11 ล้านคน หรือคิดเป็น 26% ของประชากร ที่ได้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ส่วนผู้ที่ใช้สิทธิทางไกลผ่านไปรษณีย์ บัตรเลือกตั้งของพวกเขาจะทยอยเดินทางถึงคูหาเลือกตั้งระหว่างวันพรุ่งนี้และวันเสาร์
- แผนที่ อินโฟกราฟิก ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก
- โควิด-19 : นิวยอร์กขุดหลุมฝังศพมหึมา อังกฤษเก็บศพที่ลานสเก็ตน้ำแข็ง
ความน่าสนใจอีกอย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้คือ เป็นครั้งแรกที่ชาวเกาหลีใต้ 18 ปี สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้
"มันเป็นสิทธิในการโหวตของเรา" วัยรุ่นอายุ 18 ที่เข้าแถวกล่าวอย่างตื่นเต้น
"การใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นสิ่งที่เราต้องทำ" วัยรุ่นหญิงผู้ออกมาใช้สิทธิเป็นครั้งแรกกล่าว เธอยอมรับว่าแม้ถุงมือพลาสติกจะทำให้เธอไม่ได้รับความสะดวกเท่าไหร่นัก แต่มันก็ปลอดภัยดี
ไม่เคยเลื่อนการเลือกตั้ง
เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ไม่เคยเลื่อนการเลือกตั้ง แม้กระทั่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อสมัยสงครามเกาหลีปี 1952 ในวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ก็เช่นกัน ภาครัฐได้หามาตรการมาป้องกันการติดต่อของโรค เช่น หากใครมีอาการไข้สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ก็จะถูกพาไปโหวตในสถานที่แยกต่างหาก ซึ่งห่างไกลจากคนอื่น
ส่วนคนไข้ที่กำลังเข้ารับการรักษาจะได้รับใบลงคะแนนเสียงของตัวเองผ่านทางจดหมาย คูหาเลือกตั้งถูกจัดขึ้นข้างนอกอาคารที่รับดูแลผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงอยู่หลายร้อยคน บีบีซีเห็นหญิงสาวใส่หน้ากากอนามัยคนหนึ่งออกมาจากตึกทั้งชุดผู้ป่วย ก่อนจะยื่นใบลงคะแนนเลือกตั้งให้เจ้าหน้าที่ที่สวมชุดป้องกัน
"ตอนแรกฉันนึกว่าจะอดเลือกตั้งแล้ว รู้สึกผิดเลยค่ะ" หญิงสาวคนดังกล่าวบอกกับผู้สื่อข่าวจากรอยเตอร์ "แต่พอได้ยินว่าพวกเรายังสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้เหมือนกัน ฉันก็รู้สึกยินดีกับโอกาสนี้ค่ะ"
ปัญหาใหญ่ที่สุดอีกประการหนึ่ง คือ จะให้ประชาชนทั่วประเทศกว่า 60,000 คน ที่กำลังกักตัวเองอยู่เดินทางไปคูหาได้อย่างไร
ภาครัฐใช้วิธีออกคำแนะนำอย่างเข้มงวดให้แก่ประชาชนกลุ่มนี้ออกไปเลือกตั้งตามช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงและในคูหาที่กำหนดไว้เท่านั้น กล่าวคือ ออกจากบ้านได้ตั้งแต่ 17.20 - 19.00 น. ในวันเลือกตั้ง แต่ห้ามใช้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะ ต้องเดินเท้าหรือใช้รถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น เมื่อกลับถึงบ้านจะต้องโทรศัพท์แจ้งแพทย์มิเช่นนั้นตำรวจจะตามตัวพวกเขา
กองทัพเจ้าหน้าที่
การเลือกตั้งครั้งนี้ของเกาหลีใต้ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่จำนวน 550,000 คน เพื่อตระเตรียมคูหาและจัดแจงให้สถานการณ์วันจริงดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกเขาต้องฆ่าเชื้อสถานที่เลือกตั้งกว่า 14,000 แห่ง รวมถึงกำหนดจุดบนพื้นเพื่อให้ประชาชนรักษาระยะห่างกันตอนเข้าแถว
แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเสียเวลาและต้องเพิ่มน้ำพักน้ำแรงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนว่าทุกคนยินดีและพร้อมใจอดทนเพื่อประโยชน์แห่งวิถีประชาธิปไตย
"ทุกคนตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด และนี่ก็ถือเป็นการแสดงความเป็นพลเมืองอย่างเป็นตัวในการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่แทนที่จะบ่นอิดออดครับ" ซังจางฮยุน ผู้ว่าการประจำเขตยงซานของกรุงโซล บอกกับบีบีซี
นักการเมืองหาเสียงกันอย่างไร
โดยปกติแล้ว การหาเสียงเลือกตั้งของนักการเมืองในเกาหลีใต้จะเป็นไปด้วยความครึกครื้น รถตู้ติดลำโพงคอยประกาศเสียงตามสายขณะเคลื่อนตัวไปตามถนน ส่วนนักการเมืองและทีมงานต่างหาเสียงกันเสียงดัง
อย่างไรก็ตาม การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้สิ่งต่าง ๆ ต้องปรับเปลี่ยนไป กล่าวคือ นักการเมืองจะใส่หน้ากากอนามัยแล้วรักษาระยะห่างทางสังคม ในขณะเดียวกันก็ใช้การทักทายกันด้วยการชนกำปั้นหรือชนข้อศอกกันแทนการจับมือ
ปัจจุบัน สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเกาหลีใต้จะดูคลี่คลายมากขึ้น เนื่องจากใช้มาตรการตรวจสอบและแกะรอยผู้ปวยอย่างเข้มข้นในเดือน ก.พ. - มี.ค. จากที่เคยมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงถึงวันละ 900 ราย ขณะนี้เกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อเพียงต่อวันต่ำกว่า 50 ราย และผู้ป่วยมากกว่า 7,000 หายดีจากโรคดังกล่าวแล้ว
แม้บางคนจะกังวลว่าการเลือกตั้งที่จัดขึ้นล่าสุดนี้อาจทำให้เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกระลอก แต่อย่างน้อย เกาหลีใต้ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า อะไรบ้างที่เป็นไปได้ท่ามกลางการระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัส