ไฟไหม้ ‘ดอยจระเข้’ เสียหาย 200 ไร่ ผู้ว่าฯ ควักเงินส่วนตัวจับคนเผา

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีได้เกิดไฟป่าลุกไหม้ บนเทือกเขาดอยจระเข้ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังกันเข้าทำการกับไฟ แต่เนื่องจากพื้นที่สูงชันและเป็นป่าเขาที่มีหญ้าวัชพืชขึ้นรกมาก

ล่าสุดทำให้ไฟได้ลุกลามขยายวงกว้างกินพื้นที่กว่า 200 ไร่ เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงดับไฟตรงที่เข้าไปดับได้และทำแนวกันไฟเพื่อไม่ให้ลุกลามขยายวงออกไปอีก แต่ไฟยังคงโหมลุกไหม้อย่างหนักโดยได้ลามไปยังพื้นที่ราบใกล้ถนนพหลโยธินฝั่งทิศตะวันออกของเทือกเขา และเกือบจะเผาไหม้ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ข้างทางแต่ทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย และรถดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่จัน เข้าดับไฟเอาไว้ได้ทันจนสามารถควบคุมไฟป่าได้ แต่ก็ยังต้องจัดชุดปฏิบัติการเข้าลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมงเพราะอาจคุกรุ่นและลุกไหม้ขึ้นมาอีกได้ทุกเมื่อ

ขณะที่นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย พ.อ.พศิน แสงคำ รอง ผอ.ร.ม.น.จ.เชียงราย ฝ่ายทหาร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติดับไฟป่าซึ่งได้ลุกไหม้อย่างหนักบนเทือกเขาดอยจระเข้พื้นที่ ต.ป่าตึง และ ต.แม่จัน อ.แม่จัน ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยมีนางวันดี ราชชมพู นายอำเภอแม่จัน นำชุดปฏิบัติการดับไฟป่าทุกหน่วยเข้าร่วมหารือ

นายประจญ กล่าวว่า ไฟป่าที่ลุกไหม้ดังกล่าวยังไม่มอดเสียเลยทีเดียว และครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าไฟเกิดจากลักลอบเผาป่าเพื่อการล่าสัตว์ และโดยสืบทราบแล้วว่าอาจเกิดมาจากคนเพียง 1 กลุ่มที่เป็นกลุ่มบุคคลแฝงและเกี่ยวข้องกับการลักลอบใช้เส้นทางในการลำเรียงขนยาเสพติด ดังนั้นจึงได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ได้ปรับการวางแผนเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันกรณีเกิดไฟจุดไฟเล็กๆ แล้วขยายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วจึงควรดับภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง

นายประจญ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่ลักลอบเผากลุ่มนี้นั้นได้หารือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน เพื่อจะนำมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดแล้ว เพราะถือว่ากล้าผิดท้าทายอำนาจรัฐเป็นอย่างมาก จึงเร่งให้นายอำเภอติดตามผู้กระทำผิดมให้ได้โดยเร็วและเพิ่มรางวัลนำจับจากเดิม 5,000 บาท ก็จะมีเงินรางวัลนำจับส่วนตัวของคนเพิ่มให้อีก 10,000 บาท รวมเป็น 15,000 บาทด้วย โดยการหาตัวผู้กระทำผิดให้ใช้การสืบสวนและประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการประกาศเสียงตามสาย ประกาศตามสถานที่ชุมชนต่างๆ ด้วย