NKT รุกยกระดับบริการรักษา ต่อจิ๊กซอว์ต่อยอดเฮลแคร์อีโคซิสเต็ม หนุนธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
#NKT #ทันหุ้น – ถอดรหัส NKT ! จากโรงพยาบาลชั้นนำย่านพระราม 2 ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีเครื่องมือทางการแพทย์ทันสมัย มุ่งมั่นยกระดับการให้บริการรักษาพยาบาล เพื่อก้าวไปสู่การเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำระดับประเทศ เตรียมเดินหน้าขยายฐาน ต่อจิ๊กซอร์ผ่านโครงการทั้ง “โรงพยาบาลนครธน 2” – “นครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์” หวังต่อยอดเฮลแคร์อีโคซิสเต็ม เพื่อการให้บริการให้ครอบคลุมผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น ตลอดจนการเพิ่มจำนวนเตียงเพื่อให้สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้เพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นยังเตรียมความพร้อม เตรียมจดทะเบียนเข้าสู่ SET เสริมความแกร่งระยะยาว ทว่ารูปแบบจะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องให้ทาง “รศ.ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการ บมจ.โรงพยาบาลนครธน เป็นผู้บรรยาย
กว่าจะเป็น NKT
รองศาสตราจารย์ ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการบริษัท ของบริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) หรือ NKT กล่าวว่า สำหรับจุดเริ่มต้นของ NKT นั้นเกิดขึ้นเมื่อกว่า 28 ปีก่อน ด้วยเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นของกลุ่มครอบครัวทองสิมาและเครือญาติ ที่จะสร้างสถานพยาบาลชั้นนำที่มีมาตรฐานการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ในพื้นที่ชั้นนอกทางฝั่งทิศตะวันตกของกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง จึงได้เริ่มเปิด “โรงพยาบาลนครธน” (บนถนนพระราม 2) อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2539 ด้วยวิสัยทัศน์ที่ว่า “มุ่งมั่นให้การดูแลรักษาตามมาตรฐานสากลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ (Humanized Healthcare)” ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของทีมบริหาร แพทย์ พยาบาล และพนักงานทุกคนในความสำเร็จที่เกิดขึ้น
โดยทำเลที่ตั้งของโรงพยาบาลนครธนซึ่งตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 นั้นถือเป็นทำเลศักยภาพที่มีแนวโน้มจะเป็น “เขตเมืองใหม่” ของกรุงเทพฯ ในอนาคต โดยปัจจุบันมีโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก โรงเรียนนานาชาติ ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ตลาดนัด ซุปเปอร์มาร์เก็ต และสถานที่ราชการสำคัญ เช่น สำนักงานเขตบางขุนเทียน สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขา บางขุนเทียน โดยถนนพระราม 2 เป็นทางหลวงสายหลัก ที่มุ่งสู่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ และภาคใต้ของประเทศ มีทางด่วนสายพระราม 3 - ดาวคะนอง และถนนวงแหวนตะวันตก เชื่อมต่อการเดินทางสู่ใจกลางกรุงเทพฯ อีกทั้ง ในปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางยิ่งขึ้น
ขณะที่ปัจจุบัน NKT มีโรงพยาบาลภายใต้การบริหาร 1 แห่ง คือ โรงพยาบาลนครธน ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้มีศูนย์การแพทย์เฉพาะทางจำนวน 20 ศูนย์ โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขาต่างๆ เพื่อรองรับผู้ป่วย อาทิ ศูนย์สมองและระบบประสาท ศูนย์หัวใจ ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ ศูนย์กระดูกสันหลัง ศูนย์มะเร็ง และ ศูนย์ทันตกรรม เป็นต้น และมีแผนกการรักษาผู้ป่วย 1 แผนก ได้แก่ แผนกไตเทียม ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการเพิ่มศักยภาพการรักษาผู้ป่วย เพื่อตอบสนองการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและการรักษาแบบองค์รวม
จุดเด่นของ NKT คือ การเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำของกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตกที่มีความเชี่ยวชาญ และมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพจะเป็นเขตเมืองแห่งใหม่ (New Urbanized District) ของกรุงเทพมหานครในอนาคต และมีฐานลูกค้าเก่าจำนวนมากจากการเปิดดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 28 ปี อีกทั้งยังมีความร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำ ในการก่อตั้งศูนย์การแพทย์รักษาโรคซับซ้อนและโรคทั่วไป เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการแก่คนไข้ เช่น จัดตั้งศูนย์มะเร็งร่วมกับ บริษัท บำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก จำกัด รวมถึงมีความพร้อมในการดูแลและรักษาสุขภาพของผู้ใช้บริการทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยแรกเกิด ถึง ผู้สูงอายุ
ฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของ NKT เป็นผู้รับบริการคนไทย สำหรับผู้รับบริการชาวต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและชาวเมียนมา โดยบริษัทเห็นโอกาสในการขยายการให้บริการแก่กลุ่มผู้รับบริการชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มคนไข้ชาวเมียนมาที่มีฐานะทางการเงินที่ดี บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการแต่งตั้งตัวแทนให้ดำเนินการด้านการตลาดในประเทศเมียนมา เพื่อเป็นศูนย์กลางในการติดต่อ สื่อสาร และประชาสัมพันธ์การให้บริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลนครธนให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชาวเมียนมา รวมถึงการประสานงานเพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้ารับบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาล สามารถเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลนครธนในประเทศไทยได้ นอกจากนี้ ได้จัดบริการล่ามแปลภาษาแก่ผู้ป่วยต่างชาติ เพื่อให้มีความสะดวกในการเข้ารับบริการมากยิ่งขึ้น
ต่อยอดเฮลแคร์อีโคซิสเต็ม
ไม่เพียงเท่านั้นบริษัทฯ ยังเดินหน้าเสริมศักยภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยทาง NKT มีแผนจะลงทุนพัฒนาอีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงพยาบาลนครธน 2 (บนถนนเอกชัย) โครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ และโครงการขยายจำนวนเตียงของโรงพยาบาลนครธน เพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
"ในอดีตที่ผ่านมา โรงพยาบาลนครธนเคยให้บริการผู้ป่วยสิทธิประกันสังคมในช่วงปี 2542 - 2554 ก่อนยุติการให้บริการแก่ผู้ป่วยสิทธิประกันสังคมในปี 2555 เพื่อมุ่งเน้นเงินทุนและทรัพยากรต่างๆ ของบริษัทฯ เพื่อมาปรับปรุงและพัฒนาบริการและอาคารสถานที่ สำหรับกลุ่มผู้ใช้บริการทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้ป่วยสิทธิประกันสังคมโดยเฉพาะ อย่างไรก็ดี NKT ยังคงมีความตั้งใจที่จะให้บริการผู้ป่วยสิทธิประกันสังคมมาโดยตลอด จึงได้จัดทำแผนการก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่มุ่งเน้นให้บริการผู้ป่วยสิทธิประกันสังคมภายใต้ชื่อโรงพยาบาลนครธน 2”
โดยโครงการโรงพยาบาลนครธน 2 จะเป็นโรงพยาบาลสำหรับผู้ประกันตนตามสิทธิประกันสังคม และผู้รับบริการทั่วไป ขนาด 151 เตียง ตั้งอยู่บริเวณถนนเอกชัย ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง เบื้องต้นคาดเปิดให้บริการแก่ผู้รับบริการทั่วไปได้ประมาณปี 2568 และน่าจะเริ่มให้บริการรักษาพยาบาล แก่ผู้ประกันตนตามสิทธิประกันสังคมได้ในประมาณปี 2570 ซึ่งจะสามารถให้บริการผู้ประกันตนที่มีอยู่จำนวนมากในพื้นที่กรุงเทพมหานครเขต 7 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ เขตจอมทอง เขตทุ่งครุ เขตบางขุนเทียนเขตบางบอน เขตราษฎร์บูรณะ
ขณะที่โครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ ซึ่งจะเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงแบบองค์รวม ขนาด 85 เตียง ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้าน ผู้สูงอายุ (Geriatric Doctor) และการให้บริการดูแลสุขภาพเพื่อเสริมสร้างสุขภาพแบบองค์รวม (Wellness Services) แก่ผู้ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพ คาดว่าน่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในประมาณปี 2569
นอกจากนี้ โรงพยาบาลนครธนมีแผนเพิ่มจำนวนเตียงให้บริการจำนวน 110 เตียง เพื่อให้สามารถรองรับผู้ป่วยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงอาคารปัจจุบันเพิ่มเติม เพื่อขยายพื้นที่ในการให้บริการ และเพิ่มจำนวนเตียงในการให้บริการผู้ป่วย ปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเตรียมการก่อสร้าง และคาดว่าจะทยอยเปิดเตียงให้บริการเพิ่มได้ตั้งแต่ปี 2568 – 2570
หนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน
ในระยะยาวช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ทาง NKT ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มศักยภาพการให้บริการของโรงพยาบาลนครธน จากปัจจุบันที่มีเตียงให้บริการจำนวน 150 เตียง เป็นจำนวน 260 เตียง รวมถึงการเพิ่มจำนวนห้องพิเศษ (VIP) และห้องสำหรับการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care) เพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยและความต้องการห้องพักที่กว้างขวาง และสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น ตลอดจนสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
นอกจากนี้ เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว ทาง NKT จึงมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และมีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 135 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 25.23% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยหากไฟลิ่งมีผลใช้บังคับแล้ว (Filing Effective) จะดำเนินการเปิดจองซื้อหุ้น IPO แก่ประชาชนต่อไป
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ เบื้องต้นบริษัทฯ มีแผนจะนำเงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ ไปใช้ลงทุนในโครงการโรงพยาบาลนครธน 2 โครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ โครงการขยายจำนวนเตียงให้บริการของโรงพยาบาลนครธน ชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน รวมทั้งเป็นเงินทุนหมุนเวียนการดำเนินธุรกิจ
ด้านนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของ NKT จะอยู่ในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภท ตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมาย และข้อบังคับของบริษัทฯ