POLYธุรกิจการแพทย์ทำเงิน ครึ่งหลังเด่นมั่นใจปีนี้โต10%

#POLY #ทันหุ้น - POLY ผลงานครึ่งหลังโตแรง ธุรกิจเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์มาร์จิ้นดี ลุยทำตลาดลูกค้ายุโรปและอเมริกา ด้านธุรกิจอุปโภคบริโภค – กลุ่มชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ ออเดอร์ใหม่ทยอยเข้า ทั้งลูกค้าไทยและต่างชาติ มั่นใจทั้งปีผลงานเติบโต 10%
นางกาญจนา เหลารัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ POLY ผู้ผลิตสินค้าประเภทยาง พลาสติก และซิลิโคนขึ้นรูปตามความต้องการของลูกค้า เปิดเผยว่า ทิศทางผลการดำเนินงาน ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรกในทุกกลุ่มสินค้า และผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 3/2567 จะดีต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 4/2567
เนื่องจากธุรกิจดาวเด่นกลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical)ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูงถึง 60% แม้ปัจจุบันจะมีสัดส่วนรายได้เพียง 20% แต่มีความสามารถในการทำกำไรที่ดี คาดว่าธุรกิจเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์จะเติบโตอีกมาก
จากฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของ POLY อยู่ในทวีปยุโรปและอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่มีต้นทุนค่ารักษาพยาบาลค่อนข้างสูง ทำให้การรักษา Homecare ได้รับความนิยมและยังคงตอบโจทย์กับผู้ใช้งาน โดยในไตรมาส 4/2567 จะเริ่มผลิตสินค้าใหม่ ได้แก่ อุปกรณ์สำหรับการผ่าตัดทรวงอก (Chest drain for surgery)
*เดินหน้าหาลูกค้าเพิ่ม
ทางด้านกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Products) ล่าสุดได้รับออเดอร์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้คาดว่ายังมีคำสั่งผลิตสินค้าอื่นๆ ที่กำลังจะตามมาอีกในเร็วๆ นี้ โดยในช่วงไตรมาสที่ 4/2567 บริษัทเตรียมเดินทางไปเจรจากับลูกค้าในต่างประเทศ อาทิ ยูนิลีเวอร์(Unilever), พีแอนด์จี (P&G) และลูกค้าในประเทศ โรงพยาบาลยันฮี เพื่อผลิตฝาน้ำวิตามิน คาดสรุปดีลได้ในช่วงปี 2568
ขณะที่ธุรกิจกลุ่มชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ แม้ยอดการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยลดลงจากประมาณ 920,000 คัน เป็น 760,000 คันต่อปี หรือลดลงประมาณ 17% อย่างไรก็ตามตลาดรถยนต์ต่างประเทศยังคงมีการเติบโต โดยบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมจากลูกค้าในประเทศสหรัฐอเมริกาอันเนื่องมาจากการย้ายฐานการผลิต
ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มผลิตแม่พิมพ์แล้ว และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากค่าแม่พิมพ์ในไตรมาสที่ 3-4 ของปี 2567 โดยหลังจากผลิตแม่พิมพ์แล้วเสร็จก็จะเริ่มผลิตชิ้นงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มในไตรมาสที่ 3-4 มีการเติบโตจากทั้งรายได้ค่าแม่พิมพ์ และรายได้จากการผลิตชิ้นงานคาดว่าในปี 2568 จะเติบโตขึ้นอีกมาก
*รายได้ปี 67 โต 10%
ทั้งนี้บริษัทคาดว่ารายได้รวมในปี 2567 จะเติบโต 10%จากปีก่อนที่มีรายได้รวมที่ 975.78 ล้านบาท และปี 2568 จะเติบโตขึ้นราว 20% จากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมา
โดยในช่วงครึ่งปีแรก 2567 โดยบริษัทมีรายได้จากการขายรวมทั้งสิ้น 475 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 94 ล้านบาท เติบโต 117% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 29.1% จาก 20.7% หรือเพิ่มขึ้น 8.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
กลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี มีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วน 14% ขณะที่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคมีสัดส่วน 20% ลดลงจากปีก่อนที่มีสัดส่วน 24% และกลุ่มชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานต์ยนต์ มีสัดส่วนรายได้อยู่ 61%-62% ใกล้เคียงกับปีก่อน
สำหรับสัดส่วนรายได้ของ 3 กลุ่ม ณ ปัจจุบัน ได้แก่ 1.กลุ่มชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive) อยู่ที่ 60% ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจหลัก 2.กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Products) อยูที่ 20 %และ 3.กลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical) อยู่ที่ 20%
โดยในปี 2568 บริษัทก็มองว่าสัดส่วนรายได้ของธุรกิจยังเป็นในรูปแบบเดิมเนื่องจากกลุ่มชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีออเดอร์ใหม่เข้ามาจึงเป็นการยากที่จะปรับสัดส่วนของพอร์ตในเร็วๆนี้ แต่ธุรกิจกลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์แม้สัดส่วนจะอยู่ที่ 20% แต่ก็สามารถทำอัตรากำไรได้สูงกว่าธุรกิจอื่นๆ