WHO ตั้งเป้าทุกประเทศฉีดวัคซีนโควิด-19 แตะ 40% ก่อนสิ้นปี
เจนีวา, 8 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (7 ต.ค.) องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศแผนริเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ให้ร้อยละ 40 ของประชากรทุกประเทศภายในสิ้นปี 2021 และร้อยละ 70 ภายในกลางปี 2022 โดยมุ่งจัดส่งวัคซีนแก่กลุ่มประเทศรายได้ต่ำ โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา
"องค์การฯ กำลังดำเนินกลยุทธ์เพื่อบรรลุการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั่วโลกภายในกลางปี 2022" ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การฯ กล่าว "เราทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ร้อยละ 40 ของประชากรทุกประเทศภายในสิ้นปีนี้ และร้อยละ 70 ภายในกลางปีหน้า"ทีโดรสเผยว่าการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้จำเป็นต้องใช้วัคซีนอย่างน้อย 1.1 หมื่นล้านโดส ซึ่งปัญหาอยู่ที่การจัดสรรวัคซีน ไม่ใช่ปัญหาด้านอุปทาน พร้อมเสริมว่า "เรามีวัคซีนเพียงพอจะบรรลุเป้าหมาย หากทุกประเทศได้รับการจัดสรรอย่างเท่าเทียม ด้วยอัตราการผลิตวัคซีนเกือบ 1.5 พันล้านโดสต่อเดือนทั่วโลก"บันทึกขององค์การฯ ระบุว่าปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มากกว่า 6.4 พันล้านโดสทั่วโลก และเกือบ 1 ใน 3 ของประชากรทั่วโลกได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ทว่ากลุ่มประเทศรายได้ต่ำยังได้รับวัคซีนไม่ถึงร้อยละ 1 ของวัคซีนทั่วโลก โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา ซึ่งมีผู้ได้รับวัคซีนครบโดสไม่ถึงร้อยละ 5ก่อนหน้านี้องค์การฯ ตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ร้อยละ 10 ของประชากรทุกประเทศภายในสิ้นเดือนกันยายน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้อันโตนิอู กูแตร์เรช เลขาธิการสหประชาชาติ ร่วมมือกับทีโดรส เพื่อดำเนินกลยุทธ์ล่าสุดข้างต้น"ความไม่เท่าเทียมด้านวัคซีนทำให้การระบาดใหญ่ทวีความรุนแรง" กูแตร์เรชกล่าว "แต่หากเราแบ่งปันวัคซีน แลกเปลี่ยน ถ่ายทอดเทคโนโลยี และจัดลำดับความสำคัญอื่นๆ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะลดการเสียชีวิตและความทุกข์ทรมาน ปกป้องระบบสุขภาพของประเทศ กลับมาเปิดกิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจอีกครั้ง ตลอดจนลดความเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์ใหม่ๆ"นอกจากนั้นกูแตร์เรชยังยื่นขอความช่วยเหลือจากกลุ่มประเทศจี20 (G20) อีกครั้ง ชี้ว่า "การประชุมของกลุ่มประเทศจี20 ในปลายเดือนนี้จะเป็นโอกาสของการจัดส่งวัคซีน และขอเรียกร้องผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วโลกตื่นตัว ระดมทรัพยากร และทำให้กลยุทธ์ครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ