รีเซต

มาร์คเลิกหวังชกมวยกรงกับอีลอน มัสก์ เผยอีกฝ่ายไม่จริงใจ

มาร์คเลิกหวังชกมวยกรงกับอีลอน มัสก์ เผยอีกฝ่ายไม่จริงใจ
TNN ช่อง16
14 สิงหาคม 2566 ( 13:14 )
101

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ออกมาประกาศขอ "Move on" เลิกหวังที่จะขึ้นชกมวยกรงกับอีลอน มัสก์ หลังอีกฝ่ายไม่จริงใจ และอ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา ๆ โดยหลังจากนี้มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ขอเดินหน้าเล่นกีฬาต่อสู้ของตัวเองและชกมวยกรงกับคนที่รักกีฬาต่อสู้อย่างแท้จริงเหมือนกัน 


นอกจากนี้มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เขาเคยเสนอวันชกมวยกรงกับอีลอน มัสก์ ผ่านทางดานา ไวส์ (Dana White) ประธานมวย UFC จัดการต่อสู้แบบถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตาม อีลอน มัสก์ ก็ไม่ตอบสนองเรื่องวันเวลาที่ชัดเจน และกลับบอกว่าตนเองต้องเข้ารับการผ่าตัด หากอีลอน มัสก์ จริงใจที่จะต่อสู้จริง ๆ เขารู้วิธีติดต่อกับตนเองเพื่อยืนยันเวลาที่แน่นอน มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวทิ้งท้าย


ทางด้านของอีลอน มัสก์ เจ้าตัวเองก็มีความพยายามเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทั้งการโพสต์ภาพการฝึกซ้อมการต่อสู้ การออกมาประกาศเกี่ยวกับหากมีการชกเกิดขึ้นจะต้องถ่ายทอดสดผ่านทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ที่เขาเป็นเจ้าของอยู่ โดยรายได้จากการชกขอนำไปบริจาคให้องค์การทหารผ่านศึกสหรัฐอเมริกา และล่าสุดออกมาประกาศเรื่องการตรวจร่างกายด้วยเครื่อง MRI บริเวณกระดูกสันหลังและบริเวณคอ ซึ่งอาจทำให้เขาต้องผ่าตัดก่อนขึ้นชกมวยกรงกับมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก


สำหรับมูลเหตุจูงใจให้ทั้งอีลอน มัสก์และมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ออกมาประกาศท้าชกมวยกรงระหว่างกันนั้นคาดว่าเกิดขึ้นจากทั้งคู่มีวิวาทะกันบนโลกโซเชียลมีเดียบ่อยครั้งและการแข่งขันด้านธุรกิจบริการโซเชียล โดยทางอีลอน มัสก์ ปัจจุบันเป็นเจ้าของเอ็กซ์ (X) หรือชื่อเดิมทวิตเตอร์ (Twitter) ส่วนมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็เพิ่งเปิดบริการใหม่ชื่อว่าเทรดส์ (Threads) ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับบริการเอ็กซ์ (X) จนสร้างความไม่พอใจให้กับอีลอน มัสก์ ถึงขนาดขู่จะทำการฟ้องร้องข้อหาลอกเลียนแบบ 


สำหรับในตอนนี้ดูเหมือนการว่าชกของทั้งคู่มีแนวโน้มเกิดขึ้นได้ยาก และอาจเป็นเพียงการโต้ตอบวิวาทะกันไปมาบนโซเชียลมีเดียของทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยด้านอายุ ซึ่งมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก อายุ 39 ปี ในขณะที่อีลอน มัสก์ อายุ 52 ปี ค่อนข้างมีอายุเกินกว่าจะมาชกมวยกรงบนเวทีมวยและมีความเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บที่ยากต่อการรักษาได้ในระยะยาว


ที่มาของข้อมูล CNBC

ที่มาของรูปภาพ Reuters



ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง