สหรัฐฯ เตรียมสร้างระบบป้องกันใหม่ เพื่อทำลายโดรนและภัยคุกคามทางอากาศ
บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการทหารรายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างเรย์ธีออน (Raytheon) (บริษัทในเครือของอาร์ทีเอ็กซ์ (RTX)) ทำสัญญากับศูนย์สงครามพื้นผิวกองทัพเรือ กองดาห์ลเกรน (Naval Surface Warfare Center Dahlgren Division) เพื่อออกแบบ สร้าง และทดสอบระบบเสาอากาศไมโครเวฟพลังงานสูงแบบพลังงานโดยตรง (High-power microwave antenna directed-energy systems) จำนวน 2 ระบบให้กับเพนตากอน อาคารที่ทำการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เสาอากาศนี้ จะออกแบบมาเพื่อติดตามและโจมตีภัยคุกคามทางอากาศต่าง ๆ ด้วยความเร็วแสง นอกจากนี้ยังได้รับการออกแบบให้มีความทนทาน และสามารถเคลื่อนย้ายได้เพื่อการปรับใช้งานในแนวหน้า
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีทั้ง 2 ระบบ บริษัทยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่โดยทั่วไปแล้วไมโครเวฟพลังงานสูง (high-power microwaves หรือ HPM) มีข้อได้เปรียบหลายอย่าง เช่น มีอัตราการยิงที่เร็ว โดยทั่วไปจะใช้เวลาน้อยกว่า 1 วินาทีในการยิง และสามารถยิงได้หลายครั้งในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งสร้างผลกระทบต่อเป้าหมายได้หลายอย่าง เช่น สร้างความเสียหายให้กับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงการลดประสิทธิภาพการทำงาน หรือการบังคับให้รีบูตหรือรีสตาร์ทได้
โดยทั่วไประบบ HPM จะใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency) และคลื่นไมโครเวฟเพื่อรบกวนระบบการทำงานของเป้าหมาย พลังงานจะถูกผ่านไปยังเสาอากาศคลื่นวิทยุและไมโครเวฟของเป้าหมาย หรือส่งผ่านสายไฟและวงจรที่ไม่มีฉนวนหุ้ม ซึ่งสามารถกำหนดลำแสงที่ส่งไปนี้ได้ว่าให้มีความกว้างเพียงใด หากเป้าหมายมีจำนวนเยอะ ก็สามารถกำหนดให้ลำแสงกว้างได้ หรือหากต้องการโฟกัสที่เป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจง ก็สามารถกำหนดเป็นลำแสงแคบได้
ทั้งนี้สำหรับเรย์ธีออน เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับไมโครเวฟพลังงานสูงมาเกือบ 80 ปีแล้ว ผลงานก่อนหน้าของบริษัทมีหลายอย่าง เช่น ไคมีร่า (CHIMERA หรือ Counter-Electronic High Power Microwave Extended Range Air Base Defense) ที่ออกแบบมาเพื่อโจมตีเป้าหมายกลางอากาศในระยะไกล ต่างจากระบบที่ชื่อเฟเซอร์ (Phaser) หรือทอร์ (THOR) ที่จะโจมตีเป้าหมายระยะใกล้ เทคโนโลยีอย่างเฟเซอร์หรือทอร์ มันจะทำงานด้วยเทคโนโลยีหลอดสุญญากาศเพื่อผลิตพลังงาน ซึ่งโดยทั่วไปมีขนาดใหญ่ เหมาะกับการใช้งานในสถานที่เฉพาะที่ไม่มีการเคลื่อนที่ แต่เทคโนโลยีเสาอากาศไมโครเวฟที่กำลังจะพัฒนานี้จะแตกต่างออกไปคือสามารถเคลื่อนย้ายได้
สัญญาดังกล่าว มีมูลค่า 31.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 1,100 ล้านบาท และมีระยะเวลา 3 ปี ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Directed Energy Front-line Electromagnetic Neutralization and Defeat (DEFEND) และคาดว่าจะส่งมอบโมเดลต้นแบบได้ภายในปีงบประมาณ 2024 และ 2026
ที่มาข้อมูล InterestingEngineering, RTX
ที่มารูปภาพ RTX