รีเซต

Thai Union เดินหน้า Blue Finance จับมือ 4 กลุ่มสถาบันการเงิน

Thai Union เดินหน้า Blue Finance จับมือ 4 กลุ่มสถาบันการเงิน
ทันหุ้น
30 พฤศจิกายน 2566 ( 13:29 )
29
Thai Union เดินหน้า Blue Finance จับมือ 4 กลุ่มสถาบันการเงิน

#TU #ทันหุ้น - ไทยยูเนี่ยนเดินหน้า Blue Finance ระยะที่ 2 ประกาศความสำเร็จได้รับสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน 11,485 ลบ.

 

ไทยยูเนี่ยน ผู้นำธุรกิจอาหารทะเลระดับโลก ประกาศความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน โดยครั้งนี้เป็นสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan หรือ SLL) มูลค่า 11,485 ล้านบาท ถือเป็นการเริ่มระยะที่ 2 ของโครงการ Blue Finance หรือการบริหารจัดการการเงินเพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเลของไทยยูเนี่ยน โดยไทยยูเนี่ยนมีเป้าหมายจัดหาเงินทุนที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้ได้ 75 เปอร์เซ็นต์ของการจัดหาเงินทุนระยะยาวภายในปี 2568

 

ทั้งนี้ ในการดำเนินงานระยะแรกของโครงการ Blue Finance ที่เกิดขึ้นระหว่างปี 2563-2565 ไทยยูเนี่ยนประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน นับเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ของการจัดหาเงินทุนระยะยาวของบริษัท

 

สำหรับสินเชื่อ SLL ครั้งใหม่นี้ จะมีการออกให้ทั้งในสกุลเงินบาทไทยและดอลลาร์สหรัฐระยะเวลา 3 และ 5 ปี ซึ่งความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนครั้งนี้เป็นก้าวที่สำคัญ ตอกย้ำถึงความทุ่มเทของไทยยูเนี่ยนในด้านความยั่งยืน และนอกจากการเข้าถึงการเงินที่ยั่งยืนแล้ว บริษัทยังจะได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงเมื่อสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน (SPTs) ได้ตามที่กำหนดด้วย

 

กลุ่มธนาคาร ได้แก่ ธนาคารเอชเอสบีซี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารเอ็มยูเอฟจี จำกัด (MUFG) ธนาคารมิซูโฮ จำกัด และธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น ได้จับมือร่วมกันในการให้การสนับสนุนการจัดหาเงินทุนครั้งใหม่นี้ในฐานะผู้จัดการเงินกู้ร่วม (Mandated Lead Arranger และ Bookrunner หรือ MLAB) และผู้ประสานงานด้านดัชนีความยั่งยืน (Sustainability Coordinators)

 

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  “ไทยยูเนี่ยนยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากธนาคารชั้นนำที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ที่ไทยยูเนี่ยน ความยั่งยืนถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ นับตั้งแต่ที่บริษัทได้เปิดตัวกลยุทธ์ความยั่งยืนครั้งแรกในปี 2559 เราได้นำความยั่งยืนเข้ามาปรับใช้ในการบริหารธุรกิจของเราทั่วโลก ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา SeaChange® มีบทบาทสำคัญในการจัดหาเงินทุนจากแหล่งเงินทุนที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืน และในปีนี้ บริษัทได้เปิดตัวกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนและครอบคลุมมิติของผู้คนและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สำหรับสินเชื่อส่งเสริมความยั่งยืนในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้นำเป้าหมายในการทำงานด้านความยั่งยืน SeaChange® 2030  เข้ามาเป็นตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ย  แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการทำงานด้านความยั่งยืนของเรา นอกจากนี้ ยังชี้ให้เห็นว่าการทุ่มเทให้กับการทำงานด้านความยั่งยืนมาโดยตลอดจะช่วยส่งเสริมให้ไทยยูเนี่ยนเป็นผู้นำในตลาดเงินและตลาดทุนได้เช่นกัน”

เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยนภายใต้ SeaChange® 2030 ตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPIs) และการกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืน (SPTs) จึงมุ่งเน้นไปที่ผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทในด้าน สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG เช่น การรักษาอันดับในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ในหมวดอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร และกรอบที่ใช้วัดผลเกี่ยวกับเงินทุนที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนเป็นไปตามระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสโคปที่ 1, 2, และ 3 ซึ่งสอดคล้องกับองค์กร Science-Based Targets Initiative (SBTi) เพื่อเป้าหมายในการก้าวสู่ Net Zero ภายในปี 2593

 

ไทยยูเนี่ยนถือว่าเป็นบริษัทอาหารทะเลระดับโลกแห่งแรก ที่มีการกำหนดเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวที่ได้การรับรองจากองค์กร SBTi นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญของอุตสาหกรรมนี้  นอกจากนี้ กรอบการดำเนินงานของสินเชื่อ SLL ยังเพิ่มเติมจากเดิมในเรื่องการทำประมงอย่างยั่งยืน ให้ครอบคลุมเรื่องการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างมีความรับผิดชอบ[1] โดยผ่านการตรวจสอบรับรองและความร่วมมือในโครงการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (Aquaculture Improvement Project หรือ AIP) เพื่อสร้างมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั่วโลกอีกด้วย

ดีเอ็นวี (DNV) ได้รับการมอบหมายให้เป็นผู้ชำนาญการอิสระที่ให้ความคิดเห็นและรายงานเกี่ยวกับตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน และการกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืน รวมถึงให้การยืนยันถึงความสอดคล้องตรงกันกับหลักการของสินเชื่อ SLL โดยจะมีองค์กรภายนอกอื่นเข้ามาทำการตรวจสอบความคืบหน้าอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่ามีการประเมินอย่างยุติธรรมและเป็นอิสระ

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง