“จิรายุ” ชี้ ปิดแคมป์คนงานทำผึ้งแตกรัง ห่วงพื้นที่สีเขียวได้รับเชื้อใหม่จากคนงานที่กลับบ้าน
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการ ออกมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดว่า วันนี้ตนไม่คิดว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหาแบบนี้ เพราะการแก้เรื่องหนึ่งเพื่อให้ไปเกิดอีกปัญหาหนึ่ง ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย คนงานหยุดงานเป็นเดือน ไม่มีงานให้ทำใครมันจะนอนอยู่ในแคมป์ แถมสั่งปิดเหมือนบอกให้รีบหนี เพราะประกาศวันศุกร์ให้มีผลวันจันทร์แล้วที่ไปสั่งไม่ชัตดาวน์ กทม. แต่ปิดแคมป์คนงาน 1 เดือน ไม่ทราบว่าได้คิดบ้างหรือเปล่าว่าอะไรจะตามมา ในแคมป์งานก่อสร้าง คนใน ศบค. ก็คงคิดว่ามีแต่แรงงานของบริษัทที่เป็นผู้รับเหมาหลักที่กินเงินเดือนกับบริษัท จึงสั่งการว่า ปิดแคมป์แล้วให้ประกันสังคมไปดูแลแรงงานเหล่านี้ทั้งๆ ที่แรงงานแบบรายวัน ก็ถูกปิดไปด้วย ตนอยากจะถามว่า ศบค. เข้าใจอย่างไร มาดูบ้างหรือไม่ที่คลองสามวา มีแหล่งคนงานรายวันเป็นพัน ปิด 30 วันจะเอาอะไรกิน ผู้บริหารอยู่แต่บนหอคอย ในแคมป์งานก่อสร้าง มีทั้งคนงานของ main contractor ผู้รับเหมาหลักและยังมีผู้รับเหมารายย่อยที่ตัดงานมาทำ แยกงานรับเหมายิบย่อยกันหมด และพวกนี้เขารับเงินค่าจ้างเป็นเงินสดรายวัน ไม่อยู่ในประกันสังคม พอหยุดงานเป็นเดือน ไม่มีงานให้ทำใครจะนอนอยู่ในแคมป์ แถมสั่งปิดเหมือนบอกให้รีบหนี ประกาศวันศุกร์ให้มีผลวันจันทร์ พวกกลุ่มคนงานของผู้รับเหมาย่อยที่ตัดงานมาทำเขาก็เผ่นตั้งแต่คืนวันศุกร์นี้แล้ว แทนที่จะทำการตรวจและรักษาที่เขาเรียกกันว่าบับเบิ้ลแอนด์ซีล ป้องกันอย่าให้ไวรัสระบาดออกไปทุกทิศทาง กลับไปสั่งการให้ผึ้งแตกรัง
“สั่งปิดแคมป์คนงาน บรรดาคนงาน ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ไม่มีจะกิน บ้านใน กทม.ก็ไม่มี ก็ต้องหนีกลับบ้านในต่างจังหวัด หาที่ซุกหัวนอน ไปทำนาสักเดือน สรุปมาตรการจริงๆของรัฐบาล คือ ผลักให้คนงานใน กทม.แตกฮือออกไปต่างจังหวัด แล้วก็เอาเชื้อไวรัสจากคลัสเต้อร์แคมป์คนงานใน กทม.เอาไปแจกจ่ายกันให้ทั่วถึงกันทั้งประเทศ ถ้าติดเชื้อก็โยนไปให้ระบบสาธารณสุขของต่างจังหวัดรับไป เพราะระบบของกรุงเทพฯ มันรับไม่ไหวแล้ว แก้ปัญหาไปรายวันแบบนี้ แก้เรื่องหนึ่งเพื่อให้ไปเกิดอีกปัญหาหนึ่งแบบนี้มาโดยตลอด แทนที่ผู้นำประเทศจะฟังหมอที่มีความรู้ กลับทำแบบนี้” นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า คราวนี้จังหวัดที่เป็นสีเขียวปลอดคนติดเชื้อรายใหม่มาเป็นเดือนก็จะได้รับไวร้สจากคนงานก่อสร้าง กทม. ที่หนีกลับบ้านและคราวนี้ก็จะต้องเตรียมรับมือการระบาดอีกรอบทั่วประเทศซึ่งจะใหญ่กว่าทุกรอบที่ผ่านๆ มาแล้ว โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้าที่พบในแคมป์คนงานใน กทม.นั้นกระจายตัวแพร่ติดต่อได้เร็วกว่า 1.5 เท่าตัวของเชื้อเดิม และวัคซีนซีโนแวคที่ระดมฉีดให้หมอและพยาบาลและ จนท.การแพทย์ต่างๆ รวมถึงตำรวจ และทหารในต่างจังหวัดไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อตัวนี้ได้ วันนี้คนไทย ฝากชิวิต 70 ล้านคนไว้กับวิธีคิดแบบนี้ได้อย่างไร ประเทศเราจะต้องมีจุดจบแบบไหนถึงจะพอใจผู้บริหารประเทศ