รีเซต

คู่มือเลือกยางมอเตอร์ไซค์ ยางใน (Tube Type) vs. ยางนอกไม่มียางใน (Tubeless)

คู่มือเลือกยางมอเตอร์ไซค์ ยางใน (Tube Type) vs. ยางนอกไม่มียางใน (Tubeless)
EntertainmentReport1
26 ตุลาคม 2568 ( 22:26 )
11

สำหรับชาวสองล้อแล้ว ยางรถมอเตอร์ไซค์ ถือเป็นชิ้นส่วนเดียวที่สัมผัสพื้นถนนโดยตรง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัย ความนุ่มนวล และสมรรถนะในการขับขี่ การรู้จักประเภทของยางจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะเจาะลึกความแตกต่างระหว่างยางสองประเภทหลัก คือ ยางแบบมียางใน (Tube Type) และ ยางแบบไม่มียางใน (Tubeless) เพื่อช่วยให้คุณเลือกใช้ยางที่เหมาะสมกับมอเตอร์ไซค์และการใช้งานของคุณที่สุด

 

 

ความแตกต่างทางโครงสร้างและการทำงาน

 

 

หัวใจสำคัญที่แยกยางสองประเภทนี้ออกจากกันคือ "ยางใน" นั่นเองครับ โดยมีความแตกต่างกันดังนี้

ยางแบบมียางใน (Tube Type)

  • ส่วนประกอบสำคัญ ประกอบด้วย ยางนอก และ ยางใน (Tube) ที่ทำหน้าที่กักเก็บลม
  • วิธีการกักเก็บลม ลมถูกกักเก็บอยู่ภายใน ยางใน หากยางนอกถูกเจาะ ลมจะรั่วจากยางใน
  • ขอบล้อที่ใช้ ต้องใช้กับ ล้อซี่ลวด หรือล้ออัลลอยที่ออกแบบมาเฉพาะเจาะจง

ยางแบบไม่มียางใน (Tubeless)

  • ส่วนประกอบสำคัญ มีเพียง ยางนอก เท่านั้น ตัวยางนอกและขอบล้อ (Rim) ทำหน้าที่กักเก็บลม
  • วิธีการกักเก็บลม ลมถูกกักเก็บระหว่างยางนอกกับขอบล้อ (ใช้เทคโนโลยีผนึกขอบยางพิเศษ)
  • ขอบล้อที่ใช้ ใช้กับ ล้อแม็ก (ล้ออัลลอย) หรือล้อซี่ลวดที่ติดตั้งชุดแปลง Tubeless เท่านั้น

 

 

ข้อดีและข้อเสีย: เลือกให้ถูกกับการใช้งาน 

การตัดสินใจเลือกใช้ยางควรพิจารณาจากข้อดีและข้อเสียของแต่ละประเภทให้เหมาะสมกับลักษณะการขับขี่และงบประมาณ โดยมีข้อดีข้อเสียดังนี้

ยางแบบมียางใน (Tube Type)

  • ข้อดี (Pros)
    • ราคาประหยัด: ตัวยางนอกและยางในมีราคาถูกกว่า โดยรวมค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนต่อครั้งจึงต่ำกว่า
    • ซ่อมง่าย/เปลี่ยนง่าย: สามารถเปลี่ยนยางในได้ตามร้านปะยางทั่วไป แม้แต่ในพื้นที่ห่างไกล
    • ทนทานต่อการใช้งานสมบุกสมบัน: นิยมใช้กับ มอเตอร์ไซค์วิบาก (Off-Road) หรือรถที่ใช้ล้อซี่ลวด เพราะล้อซี่ลวดมีความยืดหยุ่นสูงและรับแรงกระแทกได้ดี
  • ข้อเสีย (Cons)
    • อันตรายเมื่อเกิดยางรั่ว: หากยางถูกตะปูตำ ยางในจะถูกเจาะ ทำให้ลมออกอย่างรวดเร็ว (อาจเกิดยางแบนกะทันหัน) ซึ่งอันตรายขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง
    • มีความร้อนสะสมสูง: การมีชั้นยางในเพิ่มขึ้นทำให้เกิดการเสียดสีและความร้อนสะสมสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้ยางในระเบิดได้ง่ายกว่าเมื่อขับขี่ทางไกลด้วยความเร็วสูง
    • ต้องดูแล 2 ชิ้นส่วน: ต้องคอยตรวจสภาพทั้งยางนอกและยางใน

ยางแบบไม่มียางใน (Tubeless)

  • ข้อดี (Pros)
    • ความปลอดภัยสูงเมื่อรั่ว: หากถูกเจาะ ลมจะรั่วซึมออกช้า ๆ เพราะตัวยางนอกจะยังคงผนึกกับขอบล้อ ทำให้ผู้ขับขี่มีเวลาในการประคองรถเข้าข้างทางเพื่อปะยาง
    • จัดการความร้อนได้ดีกว่า: ไม่มีชั้นยางในทำให้ความร้อนสะสมน้อยกว่า เหมาะสำหรับการขับขี่ด้วย ความเร็วสูง หรือ ทางไกล ต่อเนื่อง
    • สมรรถนะดีกว่า: น้ำหนักรวมของล้อเบากว่าเล็กน้อย ช่วยลดน้ำหนักที่ไม่ได้ถูกรองรับด้วยช่วงล่าง (Unsprung Weight) ทำให้การตอบสนองของช่วงล่างดีขึ้น
  • ข้อเสีย (Cons)
    • ราคาสูงกว่า: ตัวยางนอกไม่มียางในมักมีราคาสูงกว่ายางในธรรมดา
    • การปะยางที่ซับซ้อนกว่า: หากบาดแผลใหญ่ การซ่อมแซมต้องทำอย่างถูกวิธีและอาจต้องรื้อยางออกทั้งหมดเพื่อซ่อมจากด้านใน (แบบแทงหนอนเป็นการซ่อมชั่วคราว)
    • ใช้ได้เฉพาะล้อที่กำหนด: ต้องใช้กับล้อแม็กซ์ หรือล้อที่ออกแบบมาเพื่อ Tubeless โดยเฉพาะ

 

 

ปัจจัยการใช้งาน: แบบไหนเหมาะสมกับคุณ?

การใช้งานของคุณคือตัวตัดสินว่ายางประเภทไหนจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด:

  • การขับขี่ในเมือง (City Use) และทางเรียบ:
      • เหมาะสมกับ: Tubeless (ไม่มียางใน)
      • เหตุผล: เน้นความปลอดภัยเมื่อเกิดการรั่วซึม และความสะดวกสบายในการขับขี่ด้วยความเร็วปานกลางบนถนนคอนกรีตหรือลาดยาง มอเตอร์ไซค์ออโต้รุ่นใหม่ส่วนใหญ่จึงใช้ยาง Tubeless คู่กับล้อแม็กซ์
    • การขับขี่ทางไกล (Long Distance) และความเร็วสูง:
      • เหมาะสมกับ: Tubeless (ไม่มียางใน)
      • เหตุผล: ความร้อนสะสมที่ต่ำกว่าช่วยลดความเสี่ยงยางระเบิดเมื่อใช้ความเร็วสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในยางมียางใน (Tube Type)
  • การขับขี่แบบสมบุกสมบัน/วิบาก (Off-Road) หรือรถที่ใช้ล้อซี่ลวด:
      • เหมาะสมกับ: Tube Type (มียางใน)
      • เหตุผล: ล้อซี่ลวดมีความทนทานและยืดหยุ่นต่อแรงกระแทกจากการโดดหรือการลุยได้ดีกว่าล้อแม็กซ์ และหากเกิดยางรั่วในป่าหรือบนทางวิบาก การเปลี่ยนยางในทำได้ง่ายกว่าการปะยาง Tubeless ที่ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะ
  • มอเตอร์ไซค์คลาสสิก/รถเก่า (Vintage/Older Bikes):
    • เหมาะสมกับ: Tube Type (มียางใน)
    • เหตุผล: ล้อเดิมของรถรุ่นเก่าส่วนใหญ่ออกแบบมาให้ใช้กับยางใน และโครงสร้างของยางในรองรับการใช้งานร่วมกับขอบล้อแบบเก่าได้ดีกว่า

 

ราคา: ความแตกต่างของต้นทุน

ราคาเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณา (ข้อมูลราคาเป็นช่วงโดยประมาณ และแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและขนาด):

 

 

 

สรุปง่าย ๆ คือ ยาง Tubeless มักจะมี ต้นทุนเริ่มต้นที่สูงกว่า แต่ให้ ความปลอดภัย และ สมรรถนะ ที่ดีกว่า ในขณะที่ ยาง Tube Type ที่มียางในจะมี ต้นทุนต่ำ แต่เหมาะกับการใช้งานแบบ ลุย หรือสำหรับรถที่มีล้อซี่ลวดเท่านั้นครับ อย่างไรก็ตามลองเลือกได้ตามการใช้งานขอบเพื่อนๆ ได้เลยครับ

Photo Credit : AI Generated

ข่าวที่เกี่ยวข้อง