SCCเคาะปันผล2.50บ. ครึ่งปีกำไร2.4หมื่นล.
SCCเคาะจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 2.50 บาทต่อหุ้น จ่อขึ้น XD วันที่ 9 สิงหาคม จ่ายวันที่ 25 สิงหาคมนี้ แม้ผลงานไตรมาส 2/2566 กำไรลดลง 19% เหลือ 8,082 ล้านบาท หลังธุรกิจปิโตรเคมีชะลอตัว แต่งวดครึ่งปีแรกมีกำไร 2.46 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% อวดสินทรัพย์เพิ่มขึ้นกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จากัด (มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 มีรายได้จากการขาย 124,631 ล้านบาท ลดลง 18% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายที่ลดลงของทุกกลุ่มธุรกิจ สาเหตุหลักจากราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ลดลง และมีกำไรสำหรับงวด 8,082 ล้านบาท ลดลง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่จากส่วนต่างราคาขายสินค้าเคมีภัณฑ์และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ลดลงของธุรกิจเคมิคอลส์
ประกอบกับเงินปันผลรับในไตรมาสที่ 2/2565 สูงกว่าปกติจากการปรับรอบเงินปันผลของบริษัทที่เอสซีจีลงทุนในธุรกิจอื่น ขณะที่ในไตรมาสที่ 2/2566 มีกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในธุรกิจอื่น 2,866 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปี 2566 มีรายได้จากการขาย 253,379 ล้านบาท ลดลง 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากยอดขายที่ลดลงของทุกกลุ่มธุรกิจ จากสถานการณ์ตลาดที่อ่อนตัว และมีกำไรสำหรับงวดเท่ากับ 24,608 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่จากกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนรวม 14,822 ล้านบาท
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทมีสินทรัพย์รวม เท่ากับ 942,018 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2565 จำนวน 35,528 ล้านบาท
*ปันผลระหว่างกาล 2.50 บ.
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 2.50 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท โดยเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าวจ่ายจากกำไรที่เสียภาษีในอัตรา 20%
ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าวให้จ่ายแก่ผู้ถือหุ้นเฉพาะผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามข้อบังคับบริษัท ตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม 2566 (จะขึ้นเครื่องหมาย XD หรือวันที่ไม่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันพุธที่ 9 ส.ค. 2566) โดยมีกาหนดจ่ายในวันที่ 25 สิงหาคม 2566
*ครึ่งปีหลังฟื้น
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง SCC ว่า แนวโน้มครึ่งปีหลัง 2566 และปี 2567 จะเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องเพราะ 1.อุปทานใหม่ P/E ผ่านจุดสูงสุดแล้ว 2.แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน, เวียดนาม, อินโดนีเซีย 3.การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และการย้ายฐานผลิตของจีน โดยเฉพาะผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี 4.แรงกดดันด้านต้นทุนลดลง โดยเฉพาะถ่านหิน -ไฟฟ้า
เหมาะสมสำหรับลงทุนระยะยาว สามารถทยอยสะสมช่วงหุ้นอ่อนตัว Roll-Over ไปใช้ราคาเหมาะสมกลางปี 2567 ที่ 370.00 บาท (เดิม 360.00 บาท) อ้างอิง P/BV ที่ 1.1 เท่า (คงเดิม) โดยให้ส่วนลดจากค่าเฉลี่ย 5 ปี -1.5 SD คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับลงทุนระยะยาวจาก Valuation ไม่แพง
ปัจจุบันหุ้นซื้อขายบน P/BV ที่ 1.0 เท่า นับว่ามีส่วนลดจากค่าเฉลี่ยในอดีต 10 ปี เกือบ -2.0 SD ทำให้หุ้นมี Downside จำกัด ระยะยาวหุ้นมีปัจจัยการเติบโตจากการ COD โครงการปิโตรเคมี LSP ในเวียดนามตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2566 รวมทั้งแผน Spin-off SCGC และ SCGD เพื่อเร่งการเติบโตอย่างไรก็ตามเชิงกลยุทธ์นักลงทุนอาจทยอยสะสมแบบตั้งรับ เพราะระยะสั้นหุ้นมีโอกาสถูกตลาดปรับลดคาดการณ์กำไรปีนี้ และมี Sentiment ลบจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันหลังผู้ผลิตปรับลดอุปทานแบบสมัครใจเพิ่มเติมช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1